Page 76 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 76
58
มาเจอกับโยคี ผู้มีความสนใจในธรรม เป็นผู้มีความขวนขวายในธรรม และ ที่เรามาปฏิบัติธรรมตรงนี้ บางคนก็รู้ว่าเป้าหมายของการปฏิบัติคืออะไร และ เป้าหมายของการปฏิบัติของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนต้องการปฏิบัติ แค่เพื่อความสงบ บางคนก็ปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์ บางคนก็ปฏิบัติเพื่อสร้าง บารมี บางคนปฏิบัติเพื่ออยากรู้ก็มี บางคนก็ปฏิบัติไปอย่างนั้นแหละ แต่รู้สึก พวกเราทุกคนจะมีเป้าหมายนะ
มีอย่างหนึ่งที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้เรามี “ความเพียรในการปฏิบัติ” ก็ คือ เป้าหมายของการปฏิบัติของเราต้องมีความชัดเจนว่า เราจะปฏิบัติไป ทาไม ปฏิบัติเพื่ออะไร อย่างที่บอกแล้วว่า วันแรกที่เราเข้ามา นอกจากขอ ขมาครูบาอาจารย์แล้ว ก็ขอขึ้นกรรมฐาน การขอขึ้นกรรมฐานนี่จริง ๆ แล้ว เป็นสิ่งสาคัญ เพราะเป็นการตั้งจิตที่มีความมุ่งมั่น ถ้าจิตเราตั้งมั่น มุ่งไปสู่ เป้าหมายที่เราต้องการจะไป มันจะเป็นตัวพลังผลักดันเราให้ก้าวไปข้างหน้า ทา ใหเ้ รามคี วามเพยี รในการปฏบิ ตั ิ มงุ่ ไปสเู่ ปา้ หมายนนั้ ๆ การขอขนึ้ กรรมฐาน จึงเป็นสิ่งสาคัญ
การเจริญวิปัสสนากรรมฐาน จริง ๆ ก็คือ การปฏิบัติเพื่อให้เกิด ปัญญา เพื่อความเข้าใจในความเป็นไปของรูปนาม หรือธรรมชาติของรูป นามขันธ์ ๕ หรือเป็นไปเพื่อความดับทุกข์ เมื่อเราเข้าใจถึงความเป็นไปของ ขันธ์ ๕ รู้อาการพระไตรลักษณ์ ความเปลี่ยนแปลงเกิดดับอยู่ตลอดเวลา ของขันธ์ ๕ เราจะได้เห็นตามความเป็นจริงของรูปนามอันนี้ ที่พระพุทธเจ้า ตรัสไว้ว่า เป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ ดับไปอยู่เสมอ การที่เราจะเห็นหรือเข้าถึงได้ ก็ต้องอาศัยการเจริญวิปัสสนา
การเจริญวิปัสสนา คือ การทาให้เรามีปัญญา รู้แจ้งเห็นจริง ที่ว่า รู้ แจ้งเห็นจริง เห็นอย่างไร ? คาว่า “รู้แจ้งเห็นจริง” เห็น “อะไร” จริง ๆ ? เบื้องต้นท่านบอกว่า ปัญญาที่รู้แจ้งเห็นจริงก็คือ เห็นชัด ๆ เห็นตามความ เป็นจริงว่า รูปนามอันนี้เป็นคนละส่วนกัน ขันธ์ ๕ รูป เวทนา สัญญา สังขาร