Page 78 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 78

60
มากเท่าไหร่ ใจยิ่งตั้งมั่น และยิ่งผ่องใสมากขึ้น จิตจะคลายจากอุปาทาน มากขึ้น ความทุกข์จะลดลง อายุอารมณ์จะสั้นลง กิเลสก็จะเบาบางลง ไม่ ต้องกังวลว่าความโลภเกิดหรือยัง ความโกรธเกิดหรือยัง เพราะเมื่อไหร่ ที่โกรธเกิดขึ้นมา เรามีสติเข้าไปกาหนดรู้ แล้วเห็นอาการดับไปหายไปของ ความโกรธ จิตใจเราก็จะรู้สึกสงบขึ้นมา นี่คือการดูจิตตัวเอง
เพราะฉะนั้น การที่เรามาพิจารณากาหนดรู้อาการเกิดดับของรูปนาม ที่บอกว่าเจริญกรรมฐานดูสติปัฏฐาน ๔ ดูกายในกาย ดูเวทนาในเวทนา ดูจิตในจิต ดูธรรมในธรรม จึงเป็นสิ่งสาคัญ และเป็นความมหัศจรรย์อย่าง หนึ่งของการเจริญวิปัสสนา บางคนไม่รู้เลยว่าสภาวะที่เกิดขึ้นมาเรียกว่า อะไร รู้แต่ว่าทุกข์กับไม่ทุกข์ ก็สามารถเจริญวิปัสสนาได้ หรือรู้ว่าเฉย ๆ รู้ แต่เย็น ร้อน อ่อน แข็ง เคร่งตึง ก็สามารถเจริญวิปัสสนาได้ ทาให้จิตผ่องใส ได้ อันนี้คือความมหัศจรรย์ของธรรมะ ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู ต้องลองนาไป ปฏิบัติดู
การพิจารณาแบบนี้ การกาหนดรู้ เรามีเจตนาที่จะรู้ถึงอาการเกิดดับ ของสภาวธรรมที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เข้าไปปรุงแต่ง อยากให้เป็นอย่างนั้น อยากให้ เป็นอย่างนี้ การที่เห็นจริง ๆ ก็คือ เห็นสิ่งที่เขาเป็นจริง ๆ ว่ามีการเกิดดับ เปลี่ยนแปลงแบบนี้แหละ อย่าง “ดูกายในกาย” หรือ “ดูรูป” ดูลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ดูอาการพองยุบ และอาการที่เกิดที่ร่างกายของเรา ไม่ว่าจะ เป็นอาการเต้นของหัวใจที่ปรากฏขึ้นมา นั่นก็คืออาการเกิดดับของรูป
การดูเวทนาในเวทนาก็เหมือนกัน เมื่อเวทนาเกิดขึ้น มีความปวด เกิดขึ้น ให้มีสติเข้าไปกาหนดรู้ วิธีกาหนดรู้เวทนา ๑) ถ้ามีเวทนาเกิดขึ้น ให้ สังเกตว่า เวทนาที่เกิดขึ้นกับจิตที่ทาหน้าที่รู้ เป็นส่วนเดียวกันหรือเป็นคนละ ส่วนกัน ? ๒) เวทนานั้นเกิดอยู่ที่ไหน ? เกิดอยู่ในที่ว่าง ๆ เกิดอยู่ในความ สงบ เกิดอยู่ที่ตัว เกิดอยู่บริเวณหัวเข่า เกิดอยู่ที่หลัง เกิดอยู่ที่ไหล่ ? เกิด อยู่ที่ไหนให้รู้ชัด แค่กาหนดรู้ว่าเวทนานั้นเกิดขึ้นที่ตาแหน่งไหนบริเวณไหน


































































































   76   77   78   79   80