Page 77 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 77

59
วิญญาณ ย่อลงมาเหลือแค่ รูปกับนาม คือกายกับใจ เพราะฉะนั้น เวลาเรา ปฏิบัติวิปัสสนา จึงให้พิจารณาอาการเกิดดับของรูปนาม
ทีนี้ อาการเกิดดับของรูปนามที่ปรากฏขึ้นมาในขณะที่เราเจริญ กรรมฐานนั้น คืออาการอะไร ? บางคนก็อาศัยกาหนดรูปด้วยการกาหนด ลมหายใจเข้าออก บางคนก็กาหนดรูปด้วยการกาหนดพองยุบ คืออาการ ของรูปที่ปรากฏขึ้นมาโดยที่ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล นี่คือการเปลี่ยนแปลงอยู่ เสมอ เรากาหนดรู้ถึงการเกิดดับของลมหายใจเข้าลมหายใจออก รู้อาการ เกิดดับของพองของยุบ นี่คือรู้ความไม่เที่ยง รู้การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ของสภาวธรรมที่กาลังเป็นไปทุกวัน ทุกขณะจิตของเรา และเกิดอยู่ที่ตัวของ เรา เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีปัญญาเห็นตามความเป็นจริงชัด ๆ ว่ารูปนามอันนี้ มีการเปลี่ยนแปลง หรือเกิดดับตลอดเวลา จิตก็จะคลายจากอุปาทาน ไม่ใช่ แค่การพิจารณาว่า รูปนี้ไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้วดับไป ตายไป
สังเกตไหมว่า เราเห็นคนตายแทบทุกวัน ได้ยินว่าคนตายแทบทุกวัน เราไม่เคยสลด หรือใจเราไม่เคยเบิกบานเลย เห็นคนตายแล้วมีแต่ความเศร้า ความทุกข์ กิเลสเราไม่เคยลดลงน้อยลง อย่างมากก็แค่ปลงว่า เฮ้อ! ไปอีก แล้ว น่าสงสาร... แต่การที่เราพิจารณาอาการเกิดดับของรูปนาม อันนี้ต่าง ไป! ที่เราปฏิบัติ ๓ วัน สังเกตไหมว่า เมื่อไหร่ที่เราตามรู้อาการเกิดดับหรือ กาหนดได้ทันอาการพองยุบ อาการของลมหายใจ เห็นการเกิดดับของ เวทนาที่ปรากฏขึ้นมา จิตใจเรารู้สึกเป็นไง ? ใสขึ้น สงบขึ้น นี่คือเห็นอาการ เกิดดับหรือการเกิดการตายของรูปนามในแต่ละขณะ แต่ละขณะ โดยที่เรา ไม่ต้องเข้าไปปรุงแต่ง ตรงนี้เรียกว่า “เห็นอาการเกิดดับของรูปนามขณะ เล็ก”
และถ้าใครมีสติแก่กล้าปัญญาแก่กล้ามากกว่านั้น เห็นแม้กระทั่งว่า จิตที่ทาหน้าที่รู้ ก็ดับไปด้วยกับอาการทุกขณะ ขณะที่เราเดินจงกรม ก้าวไป เห็นอาการเกิดดับของเขาเป็นขณะ ๆ ๆ แล้วก็หายไป ยิ่งเห็นอาการเกิดดับ


































































































   75   76   77   78   79