Page 96 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 96
78
อะไรหรอก เห็นแต่สิ่งที่เราจะทาอย่างเดียวว่าจะแสดงยังไงออกไป นั่นแหละ! เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรมเป็นสิ่งจาเป็นสาหรับชีวิตเรา
การปฏิบัติธรรมคืออะไร ? พูดให้สั้น ๆ ง่าย ๆ คือ “การเจริญสติ” ให้มีสติรู้อยู่กับปัจจุบัน รู้กับการกระทาของเรา ถ้าจะยกจิตขึ้นสู่วิปัสสนา ก็คือ มี “เจตนา” ที่จะเข้าไปรู้ว่า “อารมณ์ที่เรากาลังตามรู้นั้นเขาเกิดดับ อย่างไร” แค่นั้นเอง! นั่นคือการยกจิตขึ้นสู่วิปัสสนา เห็นไหม ไม่ยาก! ธรรมะ เป็นของง่าย ๆ แต่ยากที่จะได้ทา กว่าจะได้ปฏิบัติทีหาโอกาสได้ยากจัง เรา ก็เหมือนเป็น “คนมีกรรม” ที่บอกว่าคนไม่ดีก็ไปอยู่อีกที่หนึ่ง คนทาชั่ว เข้าคุกเข้าตะราง ใช่ไหม? เราก็มีกรรมของเรา ติดตารางเวลา จะไปไหน... เดี๋ยวติดโน่นติดนี่ เวลานั้นทานั่นเวลานั้นทานี่ ติดตลอด! เวลาเราหายาก มากที่จะได้มานั่งอย่างนี้
เพราะฉะนั้น อาจารย์ถึงบอกว่า นาน ๆ ทีที่เราได้มาปฏิบัติธรรม จึงต้องตั้งใจที่จะทาจริง ๆ แล้วผลของการปฏิบัติก็จะเกิดขึ้น อย่างน้อยก็ได้ เ จ ร ญิ ส ต ิ อ ย า่ ง น อ้ ย ท สี ่ ดุ ก ย็ งั ไ ด ม้ า น งั ่ ใ น ท ที ่ เี ่ ป น็ บ ญุ ถ งึ แ ม เ้ ร า ท า อ ะ ไ ร ไ ม ไ่ ด เ้ ล ย นั่งสมาธิไม่ได้ ก็ยังได้เข้ามาอยู่ในสถานที่ที่เป็นบุญ เพราะอะไร ? เพราะทุก คนมาที่นี่ด้วยจิตที่เป็นกุศล มีเจตนาที่เป็นบุญ เพื่อที่จะสร้างบุญ ใครก็ตาม ที่เข้ามาในนี้ ก็จะได้รับบรรยากาศของบุญ ซึมซับบรรยากาศดี ๆ ของบุญ ไป อย่างน้อยก็ยัง “มากกว่า” อยู่บ้าน ใช่ไหม ? อันนั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี
ต่อไปก็ทางาน “ใหญ่” น้อยมาเยอะแล้ว! มาทบทวน มาปฏิบัติอีกนิด หนึ่ง ก่อนที่เราจะแยกย้ายกัน มาทบทวนสภาวธรรม มาปฏิบัติธรรม ก่อน ที่เราจะแผ่เมตตาให้กับเทวดา ให้กับผู้มีพระคุณทั้งหลาย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็ตาม... จากนี้ไปใช้เวลาปฏิบัติสัก ๓๐ นาที ลองนั่งพิจารณาดู มานั่งทบทวน ปฏิบัติตามที่เราปฏิบัติมา บางคนที่อาจารย์ให้การบ้านไว้ตอนกลางวัน ลอง มาทบทวนดูว่า ยังจาการบ้านได้ไหม ? ยังจาสภาวธรรมที่เกิดขึ้นได้ไหม ?
ยกจิตขึ้นสู่ความว่าง ทาใจให้สงบ ทาใจให้ว่าง... ยกจิตขึ้นสู่ความว่าง