Page 18 - ต้นจิตและอริยาบทย่อย
P. 18

12
อาการเกดิ ดบั ทปี่ รากฏขนึ้ มาขา้ งหนา้ หรอื ขา้ งในความรสู้ กึ ในความวา่ งนนั้ มีแต่วึบหาย ๆ ๆ ๆ ๆ ให้เกาะติดอาการนั้นไป ไม่ต่างกับที่เรานั่งแล้ว มีอาการเกิดดับในความว่างความสงบนั้น เพราะฉะนั้น อิริยาบถย่อยเป็น สงิ่ ทสี่ า คญั มาก ๆ ถา้ เราอยใู่ นอริ ยิ าบถยอ่ ยเยอะ ในชวี ติ ประจา วนั ไมค่ อ่ ย มีเวลาได้นั่งกรรมฐาน ก็ดูสภาพจิต มีบรรยากาศรองรับ
ทนี เี้ วลากา หนดอาการในอริ ยิ าบถยอ่ ย อยากใหโ้ ยคกี า หนดใหช้ ดั สักนิดหนึ่ง ยกตัวอย่าง ขณะนี้กาหนดรู้อาการเกา สังเกตอาการเกา เกา ไม่ถูกศีรษะ เกาไม่ถูกตัว เกาถูกความว่าง แต่อาการคันหายนะ คือรู้สึก แหละ สัมผัสรูปแต่ไม่มีรูป เพราะเรารู้สึกได้ อาการสัมผัสเขาจะมีเวทนา มีจุดกระทบ ที่เราเกาไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นทึบ ๆ ทั้งหมด สังเกตดูนะ เวลา เราเกา เขาจะมีอาการทึบ ๆ เป็นรูป เป็นเส้นหนา ๆ แต่บางขณะถ้าสติมี กา ลงั มากขนึ้ รปู นว้ี า่ งไปหายไป อาการเกาอาจจะกลายเปน็ เสน้ ใส ๆ เคลอื่ นไป ใส ๆ แล้วหาย เส้นใส ๆ เคลื่อนไปบาง ๆ เกาแล้วก็หาย ๆ ไป แต่มี ความชัดเจนในตัว แล้วพอจะกะพริบตา รู้สึกว่าอาการกะพริบตาเดี๋ยวนี้ มันแค่แว็บหมด แล้วอยู่ในที่ว่าง ๆ หรือแว็บอยู่ในความสงบ หรือแว็บ อยู่ในความใส นี่คือสังเกตความต่อเนื่องของอารมณ์ พอสังเกตไปสักพัก จากอาการเกา มเี สยี งดงั แทรกเขา้ มา บางทโี ยคไี ดย้ นิ แตไ่ มค่ อ่ ยไดส้ งั เกต หรือคิดว่าไม่สาคัญ อย่างเช่น เวลาเราทางานหรือปฏิบัติอยู่เพลิน ๆ มบี รรยากาศรองรบั อยู่ พอเสยี งดงั ปง้ั ! เปน็ เสน้ ใส ๆ พงุ่ เขา้ มา หรอื สวา่ ง วาบเขา้ มาแลว้ กด็ บั ไป สวา่ งวาบเขา้ มาแลว้ กด็ บั ไป... นนั่ คอื ลกั ษณะอาการ เกิดดับของเสียงอย่างหนึ่ง
ไมใ่ ชว่ า่ เหน็ เสยี งเปน็ เสน้ ใส ๆ พงุ่ วาบเขา้ มาแลว้ ดบั ไป พออาจารยถ์ าม เสียงเกิดดับอย่างไร ? โอว! กาหนดไม่ทัน โยคีเข้าใจว่าถ้ากาหนดทัน































































































   16   17   18   19   20