Page 29 - ต้นจิตและอริยาบทย่อย
P. 29

นิ่งขึ้น สมมติว่า เราเห็นต้นจิตสั่งก่อนจะยก พอจะยกต่อ จิตมันสั่งให้ ยกทนั ทหี รอื เปลา่ ? นคี่ อื ไมใ่ ชว่ า่ เรายกปบ๊ึ กระทบแลว้ เรากน็ งิ่ รออยนู่ าน ใหม่ ๆ ช้าก่อนได้ เพื่อที่จะให้เห็นชัดว่าจิตมันสั่งจริงไหม การกาหนดรู้ ตน้ จติ เปน็ การเพมิ่ สตขิ องผปู้ ฏบิ ตั ิ แลว้ จะทา ใหจ้ ติ เราจดจอ่ อยกู่ บั อารมณ์ ปัจจุบัน สติ-สมาธิดีขึ้น ความฟุ้งซ่านจะน้อยลง ตอนเดินจงกรมหรือเดิน ออกกาลังกาย เราก็สังเกตแบบนี้ ที่ใช้คาว่าเดินจงกรมหรือเดินออกกาลังกาย เพราะเป็นอารมณ์หลักที่ไม่เยอะเกินไป แต่ถ้าให้ดีขึ้นอีกก็คือว่า พอเราเดิน เรารู้ทัน รู้ทัน... พอเราจะหันหน้า จะรู้สึกเลยว่า เห็นจิตมันแว็บไปก่อน แล้วหน้าเราถึงหันไป ก่อนที่จะหันไปมองซ้ายมองขวา มันรู้สึกนิดหนึ่ง ๆ จิตเราไปก่อนหรือเปล่า ? อันนี้สังเกตต้นจิต
อีกอย่างพอทันมากขึ้น สติเราดีขึ้น พอยกเท้าขึ้นมา มันมีอาการ หยุดนิดหนึ่ง ตอนที่เขาหยุด จิตสั่งให้หยุดหรือเปล่า แล้วตอนที่กาลัง จะก้าว เห็นต้นจิตสั่งให้ก้าวไปหรือเปล่า จังหวะที่หนึ่ง สอง สาม... แล้วก็ยก ต่อเนื่อง นี่คือความละเอียดของจิต นี่คือการกาหนดรู้ต้นจิต ซึ่งเป็น สิ่งที่โยคีควรทา ใครทาได้อย่างนี้จะดีมากเลย สติจะดี ที่พูดตรงนี้ก็คือว่า การที่เราสังเกตต้นจิต เราเห็นต้นจิตนิดเดียวก็จริง แต่สิ่งที่ตามมาคือ เรา จะชัดเจนถึงการกระทาการเคลื่อนไหวของตัวเอง เวลาเคลื่อนไหว อาการ ก็จะชัดว่า ยกขึ้นมาแล้วมันเบาวื้ดขึ้นมา หรือมีน้าหนักวื้ดขึ้นมา พอจะ ก้าวปึ๊บ เห็นต้นจิตสั่งให้ก้าวแว็บหนึ่ง ดับปึ๊บ แล้วก้าวไป กระทบแล้ว ว่างไป... คืออาการเหล่าจะชัด ถามว่า ทาไมถึงชัด ? เพราะสติเรามีกาลัง เราสังเกตต้นจิตมากขึ้น สติมีกาลังมากขึ้น อาการย่อมชัดโดยปริยาย การ เคลอื่ นไหวของเรากช็ ดั อนั นพี้ ดู ถงึ อาการเคลอื่ นไหวของรา่ งกายเวลาเราจะ ขยับ เพราะฉะนั้น เวลาเราจะเดิน จะลุก จะนั่ง เราจะรู้ทันตัวเองว่าเราจะ
23
































































































   27   28   29   30   31