Page 13 - มิติธรรม
P. 13

๒ . พ สิ จู น  ม ร ร ค ผ ล น พิ พ า น
นิพพานไมใชสถานที่ ไมใชวิมาน ไมใชมิติ ไมใชภพภูมิ นิพพาน มีสภาพสงบ ไมมีเกิด ไมมีแก ไมมีเจ็บ ไมมีตาย ไมมีทุกข ไมมีภัย วางเปลาจากตัวตน วางเปลาจากสิ่งมีชีวิต เปนธรรมชาติที่สงบเย็น ผูมี โอกาสเห็นนิพพานดวยตาปญญาแมเพียงครั้งเดียว จะเปนผูรับรอง วา นิพพานเปนเชนนั้นจริง ๆ เปนความสุขสงบ ปราศจากตัวตนและ สิ่งมีชีวิต อารมณนิพพานของทานผูปรินิพพาน ไมตางจากอารมณ นิพพานของบุคคลผูเขาถึงนิพพาน การดับขันธของทานผูสิ้นอาสวกิเลส เรียกวาปรินิพพาน ซึ่งหมายถึงไมมีอะไรเหลือ ไมตองเกิด ไมตองทุกข ไมตองรับรูอีกตอไป ผูที่จะเขาถึงจุดน้ีไดตองมีความปรารถนาอยาง แรงกลาที่จะยุติการเกิด สาเหตุเพราะเห็นทุกขนานัปการวนเวียนไมมีที่ สิ้นสุด ไมวาจะยากดีมีจนไมวาจะเปนเศรษฐีหรือยาจก
เพราะมีเกิดจึงมีทุกข ทุกขทั้งกาย ทุกขทั้งใจ ยากที่จะหลีกหนีได
เพราะมีเกิดจึงมีแก ตองพบกับความเส่ือมโทรม ถดถอย ไมจีรัง ยั่งยืน
เพราะมีเกิดจึงมีเจ็บ ตองทนทุกขทรมาน ทุรนทุราย เพราะโรคภัย ไขเจ็บหมุนเวียนเบียดเบียนไมรูจบ
เพราะมีเกิดจึงมีตาย ไมอยากตายก็ตองตาย ไมอยากจากก็ตอง จาก ไมสามารถรองขอได
เมื่อชีวิตปรากฏความรูสึกวาเปนตัวตนก็เกิดขึ้น มีความแก เจ็บ และตายเปนเงาติดตามตัว ซงึ่ บุคคลผูยังมีความรูสึกวามีตัวตน (อัตตา) อยู จะไมสามารถออกจากวงจรนี้ได เมื่อไมตองการพบกับความแก
7


































































































   11   12   13   14   15