Page 71 - มิติธรรม
P. 71

65
๖๓. ขณะรับรู อาการจะปรากฏอยูในมิตินั้น
๖๔. ขณะดับ อาการดับจะกลืนหายไปในมิตินั้นเชนกัน
๖๕. ความเขาใจและการเขาถึง ถึงความเปนไปของธรรมชาติจะมี
มากยิ่งขึ้น
๖๖. เมื่อเขาไปในบรรยากาศของความรูกวาง รูลึก จะเห็นวารูปนาม
อันนี้เปนสวนหนึ่งของธรรมชาติ
๖๗. ใหเอาความรูสึกแทนที่อารมณตาง ๆ เชน ใหแทนที่ความโกรธ
แทนที่ความเบา แทนที่ความละเอียด ฯลฯ
๖๘. มรรค เปนผูรู ผูละ ผูทําใหแจง และทําตนเองใหเจริญ ๖๙. เขาถึงความสุขทําใหเกิดความสุขใจ
๗๐. เขาถึงและเห็นบรรยากาศของความสุข สุขนั้นชัดเจนยิ่งขึ้น
๗๑. เขาถึงความชัดเจนของความสุขดวยความเขาใจ สุขนั้นลึกซึ้ง ยิ่งกวา
๗๒. รูกับรูสึก สภาวะตางกัน
๗๓. รูของคนทั่วไปบอกไดวากําลังทําอะไรอยู แตขาดความรูสึกตัว ๗๔. รูคือสติ รูสึกคือสัมปชัญญะ
๗๕. อารมณภายนอกที่เปนฝายกุศลทั้งหมด จะตองเขาถึง
บรรยากาศของอารมณนั้น
๗๖. เพราะความเปนกุศลของอารมณภายนอก ชวยอุดหนุนความ
เปนกุศลภายในใหมีกําลังมากยิ่งขึ้น
๗๗. บรรยากาศของกุศลนั้น ไมวาจะเปนขณะใหญหรือขณะเล็ก
ก็ตาม ยอมเปนปจจัยใหกุศลธรรมตาง ๆ เกิดขึ้นไดงาย
๗๘. เมื่อสติมีกําลัง จะทําหนาที่เหมือนหนึ่งดวงตา ที่คอยเฝาจับตาดู
ทุก ๆ อาการ ทุก ๆ อิริยาบถของรูปนาม


































































































   69   70   71   72   73