Page 112 - มรรควิถี
P. 112

98
เมื่อไรที่เรายึดรูปหรือนามก็ตามวาเปนของเรากิเลสก็เกิดขึ้น เมื่อ กิเลสเกิดความเศราหมองของจิตก็เกิด เมื่อกิเลสเกิดกิเลสเปนเหตุแหงทุกข ทําใหความทุกขเกิดขึ้นตามมา เพราะฉะนั้น ความทุกขจึงเปนสิ่งที่ตอง กําหนดรู เรากําหนดรูถึงความทุกขวา ขณะนี้เรามีความทุกขทางกาย ขณะนี้เปนความทุกขทางใจ พิจารณาถึงธรรมชาติของรูป-นาม ลักษณะ ของภาวะที่เปนทุกขคือ ตั้งอยูในสภาพเดิมไมได ความหมายที่วาทุกข เปนของทนอยูไดยาก เมื่อเกิดขึ้นแลวตองดับ ไมมีอะไรในโลกนี้ เกิดขึ้น แลวไมดับ ลักษณะคือเกิดขึ้นแลวตองดับเรียกวาทุกข ทุกขเพราะตั้งอยู ในสภาพเดิมไมได เพราะฉะนั้นสภาวะตาง ๆ อารมณตาง ๆ ที่เขามา กระทบทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจของเรา ถาเรามีเจตนาที่จะกําหนด รูถึงลักษณะของอารมณที่เกิดขึ้น ไมวาอารมณไหนเกิดขึ้นก็ตาม พิจารณา ดูวาเกิดขึ้นแลวดับอยางไร
การจะพิจารณาอารมณหรือความทุกข หรือกําหนดรูถึงลักษณะ ของความทุกขไดชัดเจนนั้น การกําหนดนั้นตองไมประกอบดวยตัวตน คือมีสติรูอยูกับอารมณปจจุบันจริง ๆ อารมณปจจุบันในขณะนี้และ เดี๋ยวนี้วา ขณะนี้เรากําลังฟง ขณะนี้กําลังนั่ง ขณะนี้กําลังทํา ขณะนี้ กําลังพูด ขณะนี้กําลังคิด อาการแครูวาคิดถือวาเปนปจจุบันเพราะมีสติรู ถาใหเปนปจจุบันขณะเล็กจริง ๆ ก็ตองพิจารณาเขาไปอีกวา ความคิดแต ละขณะที่เกิดขึ้นเกิดแลวดับอยางไร ความรูสึกที่ทําหนาที่รับรูความคิด ใน แตละขณะเล็กจัดเปนปจจุบัน การพิจารณาหรือกําหนดรูอารมณที่เกิดขึ้น ตั้งอยู ดับไป ตรงนี้จัดเปนมรรคคือวิธีดับทุกข มรรคเปนสิ่งที่ควรเจริญ สมุทัยเปนเหตุที่ตองละ ทุกขเปนสิ่งที่ตองกําหนด นิโรธตองทําใหเกิดขึ้น ถาเรารูแนวทาง(มรรค)ในการกําหนด ในการปฏิบัติเพื่อความดับทุกข การดับทุกขก็จะทําไดงาย เราจะดับทุกข ๆ ทางไหนตองรูดวยนะวา ทุกข ที่เราจะดับนั้นเปนทุกขทางกายหรือทุกขทางใจ ถาเปนทุกขทางกายเรามา


































































































   110   111   112   113   114