Page 114 - มรรควิถี
P. 114

100
ออกจากกันไดแลว ตอไปก็ทําใหความรูสึกมีกําลังมากขึ้น ดวยการขยาย ความรูสึกใหกวางขึ้น ใหกวางกวาเวทนาใหกวางกวาความอึดอัด
เมื่อขยายความรูสึกใหกวางขึ้น ความอึดอัดจะคอย ๆ เลือนลง ลดลงนอยลงและดับไป ความอึดอัดดับเมื่อไรความทุกขก็ดับเมื่อนั้น เพราะความอึดอัดคือความทุกข ตรงนี้เปาหมายชัดเจนขึ้น วาเราตองการ ดับทุกขหรือความอึดอัด ไมใชเจตนาวาจะไปดับความคิด แตในขณะ เดียวกันเมื่อความอึดอัดดับ ความคิดก็พลอยนอยไปดวย เมื่อความอึด อัดดับไปจิตเรารูสึก เบาขึ้น โลงขึ้น ความทุกขดับแลวเหลือแต ความเบา ความโปรง ความผองใสของจิตที่เกิดขึ้น ทีนี้ทําอยางไรในเมื่อเรื่องที่ตอง คิดยังมีอยู อารมณที่เราตองคิดยังมีอยู เราก็ใชความรูสึกหรือจิตที่วางเบา นั่นแหละ ทําหนาที่รับรูความคิดตอไป ไปรับรูเรื่องราวที่เราตองคิด ดวย การใชความรูสึกที่เบากวางกวาเรื่องที่คิด แลวเอาสิ่งที่ตองคิดมาไวขางหนา แลวพิจารณาวาความคิดที่เกิดขึ้น ถาจําเปนตองคิดเราก็คิดในความวาง แตถาเรื่องไหนที่ไมจําเปนตองคิด ก็เอาความรูสึกที่เบาวางเขาไปดับเสีย ถาเกิดขึ้นมาใหมก็ตองดับใหม ดับซ้ํา ๆ จนความคิดนั้นหมดไป นี่คือ การกําหนดรูหรือดับความทุกข
เหตุแหงความทุกขเพราะมีตัวตน มีอุปาทาน มีความรูสึกวาเปนเรา เราเปนผูคิด ความคิดเปนของเรา แลวทําใหเกิดความเครียด ความอึดอัด ขึ้นมา เพราะฉะนั้นเมื่อไรที่ดับความอึดอัด เมื่อไรที่เราเห็นวาความรูสึกกับ ความอึดอัดเปนคนละสวน เมื่อนั้นความเปนเราความมีตัวตน ความรูสึก เปนเราดับไป เหลือแตความรูสึกที่ทําหนาที่รูความทุกข นี่เปนการ กําหนดรู แลวมรรคคือทางดับทุกข เราขยายความรูสึกใหกวางกวาความ ทุกขเราก็ดับไดแลว เพราะฉะนั้น มรรคก็เกิดขึ้น นิโรธก็เกิดขึ้นในขณะนั้น นิโรธแปลวาความดับ ดบั อะไร ดับความทุกข ดับอารมณความอยากดับ กิเลสดับขณะใหญเปนขณะ ๆ ไปจนถึงดับขณะเล็ก สุดทายก็เขาถึง


































































































   112   113   114   115   116