Page 146 - มรรควิถี
P. 146
132
สัญญา สังขาร สิ่งที่ทําใหทุกขก็คือมีเราเขาไป หรือที่เรียกอีกอยางหนึ่ง วามีตัวตน
ตัวตนเกิดขึ้น เพราะเราไปยึดเอาสิ่งนั้นเปนสําคัญ ตัวตนเกิดขึ้น เพราะไมรู หรือที่เรียกวา “โมหะ” ไมรูวาอันนี้มีตัวตนหรือวาเปนของเราหรือ เปลา แตรูสึกวาเกิดขึ้นเมื่อไหรก็เปนเรา นี่คือโมหะ หรือความไมรู ตรงนี้ เปนสิ่งที่เราสั่งสมมาในอดีต มีกันทุกคน จนเรามาไดปฏิบัติหรือไดฟง คําสอนของพระพุทธเจา ไดศึกษาธรรมะ ศึกษาคําสอนพระพุทธเจา แลว เราสามารถรูไดเขาใจได เมื่อรูและเขาใจวารูปนามอันนี้ไมมีใครเปนเจาของ รูปนามขันธ ๕ อันนี้เกิดขึ้นดวยเหตุปจจัย เกิดขึ้นดวยเหตุ ดวยบุญ ดวยกรรม ดวยเหตุปจจัยที่เกิดขึ้น แลวก็เขาเปนไปตามเหตุปจจัย ไมมี อะไรเปนของเราอยางแนนอนถาวร
เมื่อพิจารณาเห็นอยางนี้แลวควรทําอยางไร ? อันนี้ถามตัวเองนะ เรา ลองถามตัวเองดูวา เมื่อรูวารางกายก็ไมไดบอกวาเปนของเรา ใจก็ไมบอกวา เปนของเรา แลวควรทํายังไง ? ควรหรือที่จะยึดตอไป หรือควรที่จะกําหนด รูตามธรรมชาติของเขา เพื่อไมใหจิตเราเศราหมองหรือเปนทุกข แลวอีก อยางหนึ่งเมื่อรูวา เมื่อเรายึดติดกับรูปรางกายอันนี้ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่เกิดขึ้นแลวทําใหจิตใจของเราเศราหมอง ขุนมัว ความรูสึก อึดอัด ความเครงเครียด ความโกรธแคน ความโกรธ ความพยาบาท ความอาฆาตที่เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นกับเราแลว จิตใจรูสึกเปนยังไง ? ถาม ตัวเองวาเมื่ออารมณเหลานี้เกิดขึ้นแลวรูสึกดีมั้ย ? ชอบหรือเปลา ? หรือ วาเกิดขึ้นแลวทําใหเราเรารอน อยูก็ไมเปนสุข ? จะเดินก็ไมเปนสุข นั่งก็ไม เปนสุข นอนก็ไมเปนสุข สังเกตไดเลยนะ
อันนี้คือธรรมชาติ เมื่อไหรที่จิตใจเราเปนทุกข ไมวาจะนอนก็นอน ไมหลับ นอนก็คิดมาก นั่งก็คิดมาก เดินก็คิดมาก หนาดําคร่ําเครียดนะ ทั้ง ๆ ที่รางกายไมเปนอะไร แตจิตใจเกิดความขุนมัวเศราหมอง ยิ่งเสวย