Page 158 - มรรควิถี
P. 158

144
เวทนาขันธ แตถาปวดที่กาย รางกายเขาเรียกวาเปนเวทนาขันธ จัดเปน เวทนา เมื่อมีอาการเหลานี้เกิดขึ้น สิ่งหนึ่งที่ตองสังเกต เริ่มแรกเลยตอง สังเกตวาความปวดความเมื่อยความชากับจิต กับความรูสึก เปนสวนเดียว กันหรือคนละสวน ? ถาเราไมสังเกตอยางนี้เมื่อไหร ดวยเวทนาดวยความ เจ็บปวด อาการปวดกับจิตก็จะอยูที่เดียวกัน ก็จะทําใหความปวดกับจิตเปน อันเดียวกัน เมื่อเปนอันเดียวกันเมื่อไหร ความทุกขก็จะเปน ๒ ชั้น หรือ ๒ เทา หนึ่งทุกขทางกาย สองทุกขทางใจ ทุกขทางกายเนี่ยเราเขาใจไดถึง วาความเจ็บปวด มันปวด ปวดมากแคไหน ทุกขทางใจมีลักษณะยังไง ?
ทีนี้มาดูวาทุกขทางใจที่เกิดจากความปวดมีลักษณะยังไง ? ตรงนี้ แหละสิ่งที่ตองสังเกต ถามีความปวดเกิดขึ้น แลวเราปรุงแตง มีตัวตนเกิด ขึ้น จิตก็จะไมนิ่งแลว จิตจะไมสงบ ก็จะมีอาการดิ้น ซัดสาย กระสับกระสาย อยูไมติด อยูไมเปนสุข มันจะมีอาการเศราหมอง ก็จะมีอาการเศราหมอง มีความทุกขเกิดขึ้น ๒ อยางเปนอันเดียวกัน ความทุกขเปน ๒ เทา แตถา เมื่อไหรแยกออกระหวางเวทนากับจิต เปนคนละสวนกัน อีกอยางหนึ่ง พอแยกออกปุบ เรารูวาทุกขทางกายมีอยู แตจิตไมทุกขดวย จิตรูสึกสงบอยู วางอยู เบา ๆ หรือใส ๆ หรือมั่นคง อันนี้ตองดู ถาไมดูที่จิต เราจะไมรูสึก เลยวาจิตมีลักษณะยังไง เพราะไปมุงที่รูป ที่เวทนาอยางเดียว เพราะฉะนั้น เมื่อมีเวทนาเกิดขึ้น ตองสังเกตในลักษณะอยางนี้
เมื่อสังเกตอยางนี้แลว อีกอยางหนึ่งที่ตองพิจารณาก็คือวา เราเขา ใจในเบื้องตนแลววา การปฏิบัติการกําหนดรูเพื่อละอกุศลหรือดับกิเลส เพราะฉะนั้นเมื่อมีเวทนาเกิดขึ้น ถึงแมวาเวทนานั้นยังแรงกลายังมีกําลังอยู แตเห็นวาจิตเปนคนละสวน สังเกตวาถาจิตเราใส ถามตัวเองวาจิตเรามีกิเลส ไหม ? เวทนาที่เกิดขึ้นนั้นทําใหกิเลสเกิดขึ้นที่ใจเราหรือเปลา ? ทําใหมี ตัวตนหรือเปลา ? ถาไมมีตัวตนจงพอใจ ภูมิใจในตัวเองวาถึงแมเวทนาจะ มีมากแคไหน แตก็ไมสามารถทําใหเราเปนทุกข ไมสามารถทําใหจิตเรา


































































































   156   157   158   159   160