Page 161 - มรรควิถี
P. 161
ที่วางตั้งไวขางหนาเฉย ๆ เนี่ย พอหันไปดานซาย ความวางหายไป ความ เบาหายไป หนั ไปดา นขวา พอนกึ ถงึ ขา งหลงั ความวา งไมไ ปดว ย อนั นี้ พอหนั มาขางหนาถึงจะวาง อันนี้แสดงวาเราไมสามารถเอาความรูสึกที่วางหรือ กวางเบาของเราไปใชงาน ซึ่งจริง ๆ เนี่ยเราใชได
เพราะฉะนั้นเวลาเราใชความรูสึกที่วางเบาหรือความสุข ความ สงบ ความใส ถาใหมาอยูขางหนา และใหความรูสึกนั้นทําหนาที่รับรู ไมวาจะหันไปทางไหนก็ตาม ความรูสึกเบา ความสุข ความสงบนั้นก็จะไป ดวย เพราะฉะนั้นเมื่อจิตเราวาง เราใชจิตที่วางรับรู อยาล็อคเอาไวแค ขางหนาอยางเดียว ถาล็อคเอาไวแคขางหนาอยางเดียว ไมอิสระ เมื่อจิต เราวางแคขางหนาอยางเดียว จิตจะไมอิสระเลย จะถูกล็อคอยู จะหันไป ดานซายก็เหมือนกับเสียดายวาเดี๋ยวความวางหายไป จะหันไปดานขวา เดี๋ยวความวางหายไป พอมีเรื่องใหคิด ก็กลัวความวางหายไป แตถาเราใช จิตที่วางรับรู พอมีความคิดขึ้นมาก็ใชความรูสึกที่วางไปที่เรื่องที่คิด หันไป ดูเลย ชัด ๆ หันไปมอง เอาความรูสึกที่วางไปรับรู เมื่อพิจารณาเมื่อทํา อยางนี้ สิ่งที่ตองสังเกต ผลที่ตามมา อานิสงสหรือผลที่เกิดขึ้น
โยมเขาถามวาอานิสงสของการปฏิบัติเปนยังไง ? เราปฏิบัติแลว ไดอะไร ? ที่เขาถาม ถามอาจารยอะนะ อาจารยก็ไมรูจะตอบยังไง ก็ตอบ วาโยมปฏิบัติแลวโยมไดอะไร ? คือโยมทําแลวโยมรูสึกดียังไง ? นั่นคือ อานิสงสที่เกิดขึ้น ประโยชนที่เราไดรับ เพราะฉะนั้นประโยชนที่เราไดรับ จากธรรมะเนี่ย เราหาใหเยอะ ดูวาเมื่อมีธรรมะเนี่ยมีประโยชนอะไรกับ เรา ? จริง ๆ ธรรมะมันเปนเรื่องปกติของเรา ในชีวิตประจําวันของเรา อยางเชนจิตที่วางเนี่ย เมื่อเราไปใชงาน มันไดประโยชนอะไรบาง ?
หนึ่ง.. มี ๒ อยางนะ ประโยชนทางโลก พิจารณาทางโลกก็คือวา ถาเอาจิตท่ีวางไปปรับปรุงใชกับชวี ิตทางโลกของเรา ไมวาจะเปนขณะคิด ขณะทํา อยางทํางานอยูในความวางมันดียังไง ? สอง.. ก็คือวา เมื่อจิตที่
147