Page 173 - มรรควิถี
P. 173
เดิม เราคิดขึ้นมาเรื่องเดิม เกิดซ้ํา ถามวาพอเกิดใหมเปนของเกาหรือของ ใหม ? พอเห็นเกิดขึ้นปบ เห็นวาคิดเรื่องนั้นดับไป แลวก็เรื่องเกานั้นเกิด ขึ้นมาใหม ถามวาเปนของใหมหรือของเกา ? เพราะของเกามันดับ เกิดข้ึน ใหม ถารูวาเปนของใหมเมื่อไหร เราจะรูสึกสบายเลย เพราะเปนเกิดใหม ไมใชของเกา ถึงแมเรื่องเกาแตมันเกิดใหม ทําไมถึงบอกวาเกิดใหม ? ตรง นี้ตองเห็นนะ เรื่องเกาเกิดขึ้นมาแลวมันจางไปแลวครั้งหนึ่ง แลวก็เกิดขึ้น มาใหมอีก แลวก็ดับไปอีก เกิดขึ้นมาใหมอีก ใหเรารูวาเปนอันใหมที่เกิด ขึ้น เปนครั้งใหม เปนอารมณใหม แลวเราจะไมรูสึกวาจําเจ รูสึกวาเซ็ง เหมือนเดิม สภาวะเหมือนเดิม พอปฏิบัติแลวรูสึกวาไมไปไหน แตเห็นอาการ เกิดดับเหมือนเดิม เหมือนเดิมอยู เพราะเรารูสึกวามันเปนของเดิม ถาเรา เห็น พอเห็น ออ..มันเกิดขึ้นมาใหมนะ พอเอาจิตเขาไปก็จะเห็นความตาง ตางทั้งในแงลักษณะของการเกิด ตางทั้งในลักษณะของการดับ แวบ แวบ แวบ เหมือนเดิม แตถาเขาไป ความตางก็จะปรากฏขึ้น ถาเอาจิตเขาไปใน อาการเกิดดับ ความตางของอาการเกิดดับก็จะชัดขึ้นมา วาเราเห็นตอนที่ เขาเกิดหรือตอนที่ดับ หรือเห็นวาเกิดแลวคอยเห็น ตอนดับไมเห็น เกิดแลว ก็เกิดใหม เกิดใหม เกิดใหม ตรงนั้น ถาเราพิจารณาก็จะเห็นความตาง เพราะฉะนั้นการกําหนดอารมณ การกําหนดสภาวะจึงตองรูชัดวาเรากําหนด อารมณอะไร กําหนดรูป กําหนดเวทนา กําหนดสัญญา กําหนดสังขาร หรือ วิญญาณ ตรงนี้ สังขารกับวิญญาณ รูปนาม เรายอลงมาก็เหลือรูปนาม จะได งายขึ้น พูดเปนภาษาเราก็คือวา ถากําหนดความคิดก็ใหรูชัดวากําหนดความ คิด ไมตองไปบอกวาอันนี้สังขารหรือสัญญา ไมตองไปกังวลตรงนั้น ถารู วาเปนความคิดใหกําหนดความคิด นั่นแหละก็คือลักษณะของสัญญา หรือสังขารนั่นเอง เมื่อเรากําหนดแลวเห็นจิตดับ เมื่อเห็นสิ่งนั้นดับ จิตดับ ดวยไหม ? ก็จะเห็นวิญญาณในตัว เห็นอาการดับของตัววิญญาณไมเที่ยง สังขารไมเที่ยง เวทนาไมเที่ยง
159