Page 176 - มรรควิถี
P. 176

162
นั่ง ๆ ไป นั่งไปรูสึกวาหลุดออกจากตัว เหมือนตัวเองหลุดออกไปจากตัว แลวก็เห็นตัวนั่งอยู แลวตัวเองไปอยูขางนอก ซึ่งเปนลักษณะของการแคแยก รูปนามแคนั้นเอง เพียงแตเกิดดวยอํานาจของสมาธิ ไมไดเกิดดวยปญญา แตเราแยกรูปนามไดเนี่ย เราอาศัยปญญาเปนหลัก พอเราอาศัยปญญา เรา สามารถสงจิตออกอยูขางนอกซึ่งเปนธรรมชาติของจิตเรา ไมไดอยูในตัว ตลอดอยูแลว พอเราแยกรูปนาม จะเห็นวาจิตเราอยูขางนอก หันกลับมา ดูตัว ตัววางเปลา ไมไดบอกวาเปนอะไรเลย เนี่ยลักษณะเดียวกัน เพียง แตวาเกิดจากการที่เรามีเจตนาที่จะทําที่จะเห็น กับเกิดดวยความบังเอิญ ดวยอํานาจของสมาธิ ความตื่นเตนก็จะตางกันนิดหนึ่ง ความตื่นเตน ความ รูสึกตื่นเตนก็จะตางกัน ตางกันที่วาอยู ๆ แลวมันหลุดออกไปก็จะตื่นเตน พอตื่นเตนบางครั้งเขาใจผิดคิดวาจิตไมกลับมาอยูที่ตัว จิตไมสามารถกลับ เขาตัวได เพราะวาเขาใจผิด ที่จริงแลว ถาเราจิตไมอยูที่ตัว อาการเคลื่อน ไหวไมเกิดขึ้น การพูดจาเกิดยาก ถาจิตไมสั่งรูปอันนี้ เพียงแตสติหรือ ความเขาใจผิดแคนั้นเองจึงทําใหรูสึกวาพอหลุดออกไปแลวเขารางไมได แต เขารางไมไดสามารถเลาใหคนอื่นฟงได ใชไหม ? จริง ๆ มันเขามาแลว ถึงเลาได เพียงแตวาความเขาใจเทานั้นเอง
เพราะฉะนั้นการปฏิบัติของเราจึงตองรูชัดทุก ๆ ขณะ อยาบังเอิญ ไมรูมาจากไหน อยู ๆ ก็วาง อยู ๆ ก็เบา อยู ๆ ก็สงบ อันนั้นไมดี เวลาเลา สภาวะสมัยกอนทานแมครู อยู ๆ ไปวันนี้รูสึกตื่นขึ้นมาวาง วางไปหมดเลย ทํายังไงถึงวาง ? ทานจะถามทํายังไงถึงวาง ? ไปดูอะไรถึงวาง ? ถาม.. ไมใชอยู ๆ ก็วาง ๆ ไมมีที่มาที่ไป ไมดี โดนดุแนนอน อาจารยก็เคยดุโยคี เหมือนกัน แตเขาไมคอยจํา อยู ๆ ก็วาง วาง ๆ จริง ๆ ตองสังเกตนะ ที่เรา เห็นวาวางเพราะเราไปดูที่ความรูสึกใชหรือเปลา ? ถาเราไมดูที่ความรูสึก เราจะรูไดยังไงวามันวาง ? นั่นคือมีเจตนาวาตื่นขึ้นมาเรามาดูที่ความรูสึก ทันทีหรือเปลาจึงเห็นวาความรูสึกวาง ? ถาเราไมดู มันวางไหม ? จะเห็น


































































































   174   175   176   177   178