Page 190 - มรรควิถี
P. 190

176
เลยบอกวาเปนตัวเรา ของเรา การพิจารณาอยางนี้เปนการกําหนดรูถึงความ ไมมีตัวตน หรือเรียกอีกอยางหนึ่งวากําหนดรูถึงความเปนอนัตตา
ความเปนอนัตตาของอารมณตาง ๆ ที่เกิดขึ้น ถาเราพิจารณา เปนเรื่องที่ทําใหเกิดความรูสึกเบิกบานใจ บันเทิงใจ ก็คือ ไมวาสภาวะ อะไรเกิดขึ้นก็ตาม ไมวาจะเปนการเกิดขึ้นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ให พิจารณาดูวาขณะนั้น ขณะที่ไดยินเสียง เสียงที่เกิดขึ้นมีตัวตนไหม ? คําวา มีตัวตนกับเปนรูปราง คนละอยางกัน ความเปนกลุมกอนของเสียงก็คือ ความเปนกลุมกอน คือเสียงมีรูปรางเปนกลุมกอน กลม ๆ แบน ๆ หรือ วายาว ๆ อันนี้แลวแต แตในขณะที่เห็นลักษณะอยางนั้น สังเกตดูวา เสียงนั้นมีตัวตนไหม ? อยางนี้อาจจะยากไปนิดหนึ่ง ใหงายขึ้นก็คือถอย ออกมาดูวาเสียงกับใจเราเปนสวนเดียวกันหรือคนละสวน ? เสียงกับใจ ที่ทําหนาที่รูเปนสวนเดียวกันหรือคนละสวน ? เมื่อเห็นวาเสียงกับใจเปน คนละสวน ตอไปก็พิจารณาตอวาขณะนั้นมีตัวตนหรือเปลา ? มีความรูสึก วาเราเปนผูไดยินหรือเปลา ? หรือมีแตจิตทําหนาที่รับรูถึงเสียงที่เกิดขึ้น ?
ถากําหนดรูอยางนี้นะ จะเห็นถึงธรรมชาติของรูปนาม จะรับรู ถึงธรรมชาติของรูปนามที่เกิดขึ้น หรือเหตุปจจัยของอารมณตาง ๆ ที่เกิด ขึ้นวาเปนอยางไร ทุก ๆ อยางเปนไปตามเหตุปจจัย เมื่อเปนไปตามเหตุ ปจจัย ไมวาจะเปนรูป เปนเวทนา เปนสัญญา สังขาร หรือวิญญาณก็ตาม จะไมมีตัวปรุงแตงหรือตัวกิเลสเกิดขึ้นดวย ไมมีตัวโมหะ
มีโยมถามวาขณะที่จิตเราวาง เบา ตรงนี้เปนโมหะหรือเปลา ? เลย บอกวาถาเรากําหนดรูชัดวาจิตวาง เบา และเห็นเปนคนละสวนกับอารมณ ที่เกิดขึ้น อันนั้นไมเรียกวาโมหะ รูชัดถึงวาจิตวาง จิตเบา จิตสงบ แตถา เปนการรูไมชัดหรือรูแบบเบลอ ๆ หรือคิดเอาวาอันนี้ขณะนี้ไมมีตัวตน ขณะนี้จิตสงบ ซึ่งความสงบที่เขาใจก็คือ บางครั้งเราเขาใจวาสงบจริง ๆ คือสงบจากความคิด การที่จะสงบจากความคิดได ขณะนั้นจิตตองเขาฌาน


































































































   188   189   190   191   192