Page 191 - มรรควิถี
P. 191
จิตเขาฌานหรือจิตมีอารมณหลักอารมณใดอารมณหนึ่งที่มีความชัดเจน อยางเวลาเรานั่งสมาธิหรือนั่งเจริญกรรมฐานกําหนดดูลมหายใจ อยางเชน ขณะที่กําหนดรูลมหายใจ รูชัดถึงลักษณะอาการเกิดดับของลมหายใจ ขณะที่รูชัดถึงลักษณะอาการเกิดดับของลมหายใจอยางเดียว ขณะนั้นความ คิดไมเกิดขึ้น ตรงนั้นสติเราอยูกับปจจุบันซึ่งเปนสภาวะที่สมาธิดี สมาธิ ดีมาก ๆ แลวก็สติดีดวยที่รูชัดถึงลักษณะเกิดดับของลมหายใจ แนนอน ตรงนั้นความคิดไมเกิด ขณะนั้นความคิดไมเกิด แตเมื่อไหรที่สภาวะเหลา นั้นมีการเปลี่ยนแปลง อยางเชนเมื่อลมหายใจนอยลงหรือหายไปหรือ วางไป ไมมีอารมณหลักใหจิตเราเกาะหรือตามรู พอวางสงบสักพักหนึ่ง ความคิดก็อาจจะเกิดขึ้นมา ความคิดจะเขามา เมื่อความคิดเขามา ตรงนั้น แหละเราจะรูสึกวาความคิดรบกวน ไมสงบ
ที่จริงแลวความคิดเปนอารมณหนึ่งของกรรมฐาน ถาเราเอาความ คิดนั้นเปนอารมณกรรมฐาน ก็จะไมรูสึกวาความคิดนั้นรบกวน แตจะรูสึก จิตจะไมวางเปลา มีอารมณใหกําหนดตอเนื่อง เจริญสติตอเนื่องได ถา กําหนดรูอยางนี้ ไมมีอะไรเลยที่เปนอุปสรรคตอการปฏิบัติ ไมมีอะไรเลย ที่เปนอุปสรรคตอการเจริญสติ เพราะแมแตเวทนาหรือความปวดที่เกิดขึ้น เราก็เอามาเปนอารมณกรรมฐาน
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราปฏิบัติกรรมฐานกันก็คือ ทุกครั้งที่นั่ง สภาวะ ๔ อยางที่เกิด ที่จะเกิดขึ้นกับเรา ที่เปนอารมณบัญญตั ินะ หนึ่ง ลมหายใจ สอง เวทนา คืออาการปวดอาการเมื่อยอาการชา สาม ก็คือความคิด เนี่ยลักษณะมีประมาณนี้ นอกนั้นก็คือ เวนแตวาปฏิบัติไดมากกวานั้น แลวก็สภาวะอาการเกิดดับ หรือเปนแสงสีตาง ๆ ที่เกิดขึ้น เกิดแลวดับ เกิดแลวดับ ตรงนั้นแหละ สภาวะเหลานี้จะเกิด
บางคนพอนั่งปฏิบัติ ก็คือเจตนาเราผิดเสียแลว ตั้งจิตเจตนาผิด วาพอนั่งฉันจะนั่งใหสงบ ฉันจะนั่งจะตองสงบ นั่งเมื่อไหรจะฉันตองสงบ
177