Page 202 - มรรควิถี
P. 202

188
รับอารมณ ทําตัวเองใหเปนภาชนะรั่ว ถามีเราเมื่อไหร ก็ภาชนะนั้น ที่เขา มาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็จะมีเราเปนผูรับ เหมือนเราเปนภาชนะ รองรับอารมณตาง ๆ ไมวาจะเกิดขึ้นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ พอเขามา ถึงปบ มีเราเปนผูรับ มีเราเสวยอารมณ เมื่อมีเราเสวยอารมณ เราก็รูรส ชาติของอารมณ เมื่อรูรสชาติของอารมณ ก็อยูที่วารสชาตินั้นจะเผ็ดจะรอน จะเย็นจะเปนอยางไร เมื่อเปนอยางไรเราก็ไปอยางนั้น เปนตัวปรุงแตงจิต เรา เพราะมีเรา
เพราะฉะนั้นถาเอาความรูสึกวาเปนเราออก ลองพิจารณาดูนะ ถา เอาความรูสึกวาเปนเราออก เหลือแตจิตที่วาง กวาง อารมณตาง ๆ ที่เกิด ขึ้นในความวางจะรวงหายไป ไมมีใครเปนผูรับ อารมณตาง ๆ ที่เกิดขึ้น จะตั้งอยูบนความวาง ตั้งอยูตามธรรมชาติที่เกิดขึ้น อยูตามความวาง เพราะฉะนั้นอารมณเหลานั้นจึงเกิดที่ไหน ดับที่นั่น เกิดเพราะเหตุ เขาก็ดับ เพราะเหตุ เกิดที่ไหน ดับที่นั่น ไมตองวิ่งเขามาในใจของเรา นี่เราเห็น ธรรมชาติจริง ๆ ของสภาวะ ของรูปนาม ของธรรมชาติ ธรรมชาติของรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณหรือความคิดที่เกิดขึ้น แมแตความคิด เองที่เกิดขึ้นภายใน ซึ่งเรียกวาเปนอารมณภายในที่เกิดจากใจของเรา เรา เปนผูคิด หรือความคิดที่เกิดขึ้น ไมวาจะดวยเหตุอะไรก็ตาม ถากําหนดรู ถึงความรูสึก ใหจิตกวางกวาเรื่องทิ่คิด แลวก็ไมมีตัวตน ลองสังเกตใหดี เมื่อเอาความรูสึกวาเปนเราออก หรือดับไป รูปนี้จะวางเปลา รูปจะเบา วาง เปลา เพราะฉะนั้นอารมณตาง ๆ ที่เขามาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย หรือใจ ก็จะเกิดอยูบนความวางเปลา แลวก็ดับไปในความวางเปลา มีแตจิตที่วาง ทําหนาที่รับรูอารมณ เพราะฉะนั้นจึงบอกวาอารมณที่เกิดขึ้น ตั้งอยูบน ความวาง แลวก็หายไปในความวาง เหมือนภาชนะเรากนรั่ว ภาชนะที่วาง เปลา รับเขาไปแลวก็หลุดลงไป ไมยอมรับสิ่งที่ไมดี อารมณตาง ๆ ไมมี อุปาทาน ไมยึดเอาไว แตพิเศษอยาง จิตที่วางเมื่อไมรับอารมณ ไมมีตัว


































































































   200   201   202   203   204