Page 211 - มรรควิถี
P. 211
รูสึกชอบไมชอบ เจ็บปวด เมื่อย ชา เฉย ๆ อันนั้นเวทนา ตัณหาก็คือความ ชอบไมชอบ หรืออยากใหเกิดขึ้น อยากใหตั้งอยู อยากใหดับไป อยากให หายไป พอไมเปนอยางงั้น เราก็เปนทุกข มันตั้งอยู ยึดเอาไว เกิดภพก็คือ ความตั้งอยู อารมณที่ตั้งอยูนานเทาไหรมันคือภพภูมิ ภพตรงนี้หมายถึง ภพภูมิ คือการตั้งอยู ภพภูมิคือสถานที่ ชาติคือการรักษาเอาไว ชีวิตเกิด ขึ้น แลวก็เกิดแกเจ็บตาย วนเวียนอยูอยางนี้ แตถาเมื่อไหรที่เรากําหนด รูถึงความเปนคนละสวนระหวางความรูสึกกับอารมณที่เกิดขึ้น จิตไม คลอยตามตามกระบวนการของปฏิจจสมุปบาท จิตไมคลอยตาม ไมไหล ตามองคของปฏิจจสมุปบาท นั่นคือการหลุดพนจากวงจรชั่วขณะหนึ่ง หลุดจากวงจรของปฏิจจสมุปบาท
เมื่อหลุดพนจากวงจรอันนั้น เราไมคลอยตามวงจร เราก็มีแตผัสสะ ไมมีตัณหา ผัสสะเกิดขึ้น ตัณหาไมเกิดขึ้น อุปาทานไมเกิดขึ้น ภพ ชาติ ชรามรณะไมเกิดขึ้น จิตจะเปนผูอิสระ วางเปลา ไมเปนไปตามอํานาจของ อารมณเหลานั้น นั่นคือการหลุดพนจากวงจร แมชั่วขณะหนึ่ง แมการหลุด พนจากวงจรขององคปฏิจจสมุปบาทชั่วขณะหนึ่งก็ยังทําใหอิสระ ใหนาม อิสระ อิสระไมทุกข แลวก็ผองใส ฉะนั้นเมื่อไหรที่เรามีความทุกขหรือมี อารมณเกิดขึ้น สัมผัสทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ใหกําหนดใหไวใหเร็ว ใหรูถึงความเปนคนละสวนระหวางความรูสึกกับอารมณที่เกิดขึ้น อันนี้เปน เบื้องตน ทําบอย ๆ พิจารณาบอย ๆ
เราจะกําหนดไดเร็วอยางไร ? ทําอยางไรเราจะเห็นถึงความเปน คนละสวนใหเร็วท่ีสุด ? ทําอยางไรใหเห็นถึงความเปนคนละสวนระหวาง ความรูสึกกับอารมณอันนั้นใหเร็วที่สุด ? ก็คือจับที่ความรูสึก จับที่ความ รูสึกที่ทําหนาที่รับรูอารมณเหลานั้น อันนี้อยางหนึ่ง อีกอยางหนึ่งก็คือตอง ฝกบอย ๆ ไมตองรอใหอารมณที่ไมดีเกิดขึ้นมากอน ใหกําหนดรูทุกอยาง ที่เรารับรูทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจที่เกิดขึ้น ทุก ๆ อารมณที่เกิดขึ้นที่
197