Page 244 - มรรควิถี
P. 244
230
หนึ่งเปนหลัก อารมณไหนชัดที่สุดหมายถึงชัดที่สุดในความรูสึก ไมใช ใหญที่สุด คือชัดที่สุดในความรูสึก ใหเอาความรูสึกเราไปกําหนดอาการ นั้น
เมื่อเราเลือกอารมณที่ชัดที่สุด กําหนดไปสักพัก อารมณนั้นหมดไป มีอารมณใหมเดนชัดขึ้นมาตอ ก็กําหนดอารมณใหมที่เดนชัดขึ้นมาตอ เมื่อ กําหนดอยางนี้ไปเรื่อย ๆ อารมณก็จะนอยลง สภาวะตาง ๆ ที่รูสึกวามี เยอะแยะมากมายก็จะนอยลง ก็จะเหลือแคอารมณที่ชัดที่สุด เฉพาะหนา ที่ปรากฏขึ้นมาใหเรากําหนด ตอไปก็จะกําหนดงายขึ้น กําหนดอารมณขาง หนาอยางเดียว เรามีหนาที่ตามกําหนดรูถึงลักษณะการเกิดขึ้น ตั้งอยู ดับไปของสภาวะตาง ๆ เทานั้น ไมวาจะเปนพองยุบ หรือลมหายใจเขาออก เวทนาคืออาการเจ็บปวด เมื่อยคัน ชา หรือความคิดก็ตาม เรามีหนาที่ ตามกําหนดรูอาการเกิดดับเปลี่ยนแปลงของเขาเทานั้น ตองกําหนดอยาง ไมมีความอยาก อยากรูไดนะ อยากรูเปนการทําใหเกิดปญญา อยากรู การเปลี่ยนแปลง อยากรูถึงลักษณะการเกิดขึ้น ตั้งอยู ดับไป ตรงนี้ยิ่ง อยากรู ความเพียรยิ่งมาก แตถาอยากได อยากใหเปน หรืออยากให ตั้งอยูตรงนั้นเกิดจากกิเลสนะ ตรงนั้นจะเปนกิเลส จะทําใหสติเรา ออนลง แตถาอยากรูเมื่อไหร สติยิ่งตื่นตัว จิตยิ่งตื่นตัว สติมีกําลัง สมาธิก็จะเพิ่มขึ้น
ดังนั้นเวลาเราปฏิบัติ การพิจารณาสภาวธรรมตาง ๆ ตองมีความรูสึก อยากรู หรืออยากเห็นวาตอจากนั้นเปนอยางไร เมื่อสภาวะนี้เปลี่ยนแลว ตอไปสภาวะใหมเกิดขึ้นเปลี่ยนอยางไร หรือเกิดดับอยางไรตอไป การ ตามรู ตามกําหนดรูใหชัดนะ ไมใชวาอยากใหเปนอยางนี้ตลอด อยากให อยูอยางนี้ อยากใหเปนอยางนี้ อยากใหเปนอยางนั้น อันนั้นเรียกวากิเลส ความอยากที่เกิด อยากอยางมีตัวตนเปนกิเลส ความอยากที่จะพาเรา พนทุกขคือ อยากรูธรรมชาติ อยากรูสัจธรรม ตองอาศัยความอยาก