Page 264 - มรรควิถี
P. 264

250
เราปุบ พอวาง จะใหตั้งอยูนาน เราตองขยายใหกวาง แลวก็จับที่ความรูสึก ดูจิตของเราไปเรื่อย ๆ ตรงนี้จะเห็นวา เมื่อจิตเราวาง เราแยกรูปนามได จิตเราวาง อารมณตาง ๆ ที่เกิดขึ้นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จะปรากฏ ชัดดวย เสียงที่ไดยินก็ชัด ความคิดที่เกิดขึ้นก็ชัดเจน ภาพที่เห็นก็ชัด อยางเชน พอจิตวาง เวลามอง รูสึกเปนไง ? ภาพนี้จะเดนชัดขึ้นมา แตถา จิตเราไมวาง บางครั้งมันจะเบลอ ๆ จิตวาง จิตผองใส จิตยิ่งใส ภาพ ยิ่งชัด ไมใชเบลอนะ เพราะฉะนั้นอารมณตาง ๆ จึงชัดเจน เพราะสติเราดี
เวลาอารมณตาง ๆ เกิดขึ้นชัดเจน ความไมพอใจเกิดขึ้นแมนิด เดียว ก็จะรูสึกวาเปนเรื่องใหญเลย มันชัดมากจนนากลัว เพราะฉะนั้นเวลา เกิดขึ้นปุบ เราก็ดับเสีย อยากังวลวาอุย..แยแลว เราไมทัน กําหนดไมทัน ความไมพอใจเกิดขึ้นอีกแลว ไมตองคร่ําครวญ เพราะคร่ําครวญแลวเสีย เวลา มัวแตคร่ําครวญ เสียดายจังเลยเมื่อกี้ไมทัน แยแลว..ทํายังไง ? นา จะทัน ขณะที่เรากําลังรําพึงรําพันอยางนี้ เสียเวลาไปตั้งนาน ขณะที่เรารําพึง รําพัน ถามวาความไมพอใจนั้นหายไหม ? ก็ยังไมพอใจตัวเองตอ ไมใช แคไมพอใจอารมณอันนั้นนะ ตัวที่ตามมาก็คือไมพอใจตัวเอง งั้นวิธีให ดับงายที่สุดคือ ออ..เมื่อกี้เกิดขึ้นแลว ไมพอใจ ดับใหม เริ่มใหม ยกจิต ของเราขึ้นสูความวาง แลวก็รับรูใหมแคนั้นเอง
สมมติวาอารมณเมื่อกี้ทําใหเราไมสบายใจ เกิดขึ้นมาแลว เรารูสึก วาไมสบายใจ เราก็ดับความไมสบายใจของเรากอน ยกจิตขึ้นมา ทําให วาง แลวลองดูวา ถาเอาจิตที่วางเขาไปรับรู ใหเอาจิตที่วาง กลับไปรับรู อารมณนั้นใหม ใหรับรู ใหอารมณนั้นตั้งอยูในความวาง แทนที่จะอยูที่ ตัวเรา เพราะที่เราไมพอใจเมื่อกี้มันเขามาถึงตัว เขามาขางใน เพราะฉะนั้น วิธี ใหอยูขางนอกเสีย ถามวาไดไหม ? ได เราสามารถใหอารมณนั้นอยู ขางนอกได
สังเกตนะวา ถาเมื่อไหรที่จิต ความรูสึก หรืออารมณนั้นเขามาถึงตัว


































































































   262   263   264   265   266