Page 268 - มรรควิถี
P. 268

254
กับกุศลธรรม ตรงนั้นศีลก็เกิดขึ้นอยูแลว
เพราะรักษาจิต ก็รักษากาย รักษาจิตได รักษากายได เดี๋ยวก็รักษา
วาจาได เพียงแตวาการรักษากาย วาจา ตองมีเจตนาเพิ่มขึ้น เพราะอุปนิสัย ของแตละคนไมเหมือนกัน บางคนก็พูดจาโผงผาง พูดแลวกระทบคนอื่น เพราะฉะนั้นจึงตองมีการระวังกาย วาจาเพิ่มขึ้น กิริยาบางคนก็จะ เปนคนแบบตรง ๆ เหมือนกับไมไดแบบคนสํารวม ออนชอย งดงาม แตบางคนก็เรียบรอยโดยที่เขาสรางมาดี ถาจิตเราดี จิตเราบริสุทธิ์ แลว อาการนั้นเกิดขึ้น มันก็จะทําใหคนเขามองแปลก ๆ แคนั้นเอง แตโดยสภาพ จิตก็ไมสามารถรูได
สมัยพุทธกาลก็เหมือนกัน เหมือนที่เขาบอกวา... พระสารีบุตร โยม เขานิมนตพระสารีบุตรไปรับผาใชไหม ? รับสังฆทาน พระสารีบุตรเดิน แลวก็กระโดดขามคลอง กระโดดครั้งหนึ่งก็จีวรหายไปชุดหนึ่ง กระโดด อีกครั้งหนึ่งก็หายไปอีกชุดหนึ่ง ตอนนี้รูแลววา ออ..พอกระโดดเมื่อไหร ศรัทธาโยมหายไป ก็เลยไมกระโดด เลยเดิน นั่นคือความรูสึก เพราะฉะนั้น เราจะสรุปไมไดเลยวาอาการเหลานี้ ของบุคคลนี้เปนยังไง สภาพจิตเขา เปนยังไง เราดูธรรมะ อยูที่ธรรมะ เพราะฉะนั้นอยูที่เจตนา
เหมือนเราก็เหมือนกัน การพูดจาที่เราพูดนะ บางคนพูดใชคําเพราะ ๆ ฟงไมเขาใจ ใชไหม ? บางคนตองใชเสียงแบบชัด ๆ เลยนะ เขาถึงจะรูเรื่อง คือตองใหเหมาะกับคนฟง ที่สามารถเขาใจได อยางเวลาคนที่มีปญญา เราพูดแบบสุภาพ เขาก็เขาใจได พูดดี ๆ ก็เขาใจได บางคนพอหยาบขึ้น มาหนอย ก็ใชใหมันเหมาะ ๆ กันถึงจะเขาใจ ตรงนี้เหมือนกับมันเปน ศิลปะ ถาคนที่ฟงภาษาแบบเพราะ ๆ ไมเขาใจ เสียงนุม ๆ ไมคอยเขาใจ เขาไมถึงใจ ก็ตองดังขึ้นมาหนอย ถึงจะไดตื่นตัว ใชไหม ? นั่นแหละ เหมือนกับเขาเรียก “วิธีการ” แตวาการใชเสียงดังไมใชหมายความวา เพราะความโกรธ


































































































   266   267   268   269   270