Page 280 - มรรควิถี
P. 280

266
ถาอยูแคนี้ ก็พูดไดแคนี้ กลับมาก็พูดตรงนี้แหละ พูดจนกวาเราจะเกิดความ ชํานาญ แลวฟงแลวปฏิบัติได ตองปฏิบัติได พูดไปแลวตองทําได ถาทํา ไมได ไมเกิดประโยชน พูดแลวตองทําได ฟงแลวตองทําไดดวย พูดก็พูด ไปอยางนั้นแหละ แตฟงแลวตองทําได ตองทําได เพราะฉะนั้นอุปสรรค ตาง ๆ สําหรับนักปฏิบัติ ถาเราเขาใจแลว ตอไปไมมีแลวนะ ไมมีขออาง เพราะวาอยางนั้นเพราะอยางนี้ เลยไมไดกําหนด
จริง ๆ การเจริญสติ เปนสิ่งที่ตองทําเลย ไมวาจะเปนสภาวะอะไร เกิดขึ้นก็ตาม อารมณใดเกิดขึ้นก็ตาม จําเปนตองมีสติกําหนดรู ดีไมดีเกิด ขึ้น ตองมีสติกําหนดรู คําวา “กําหนด” ก็คือรูชัดนั่นเอง ไมใชใชคําบริกรรม วารูหนอ.. รูหนอ..อันนั้นคือคําบริกรรม คําวากําหนดคือรูชัดในสิ่งที่เรากําลัง รูอยู รชู ัดวาเปนอยางนี้อยางนี้ อันนั้นคือการกําหนด ใสใจ รูใหชัดเขาไป อีก ไมใชแครูอยางเดียว
อาจารยหมดอะไรจะใหแลว อืม..แตละคนภาชนะกวางแลว ดีจังเลยนี่ อยางนี้ดี ถาเปนอยางนี้ อาจารยก็พอพูดได พูดเรื่อย ๆ ได แตวาพออาจารย หมดอาจารยก็หมดนะ อาจารยหมดนี่ก็คือไมมีอะไร แตถามีเหตุขึ้นมาอีก ก็พอตอไดนิดหนึ่ง ดวยเหตุดวยปจจัยที่มีใหพูด.. เปนไง ? เขาใจบางไหม ? เขาใจขึ้นนะ ฟงแลวรูสึกเปนไงจิตใจ ? ดีนะ แคดี แคดีก็ดีมากแลวนะ รูสึกอยางไร ? ความรูสึกเปนอยางไร ? ดียังไง ? รูสึกสวางขึ้น ใสขึ้น
สังเกตไหม.. เวลาเราฟงอะไรเขาใจจิตเราจะสวาง นั่น..บรรยากาศ ของความเขาใจ บรรยากาศตรงนั้นเปนตัวบอกวาเราเขาใจ ไมวาจะเปนเรื่อง อะไรก็ตาม มันจะรูสึกโลงขึ้น เบาขึ้น ธรรมะก็เหมือนกัน ถาเราฟงเขาใจ จะรู บรรยากาศของเรา สภาพจิตเราจะเบาขึ้น ใสขึ้น รูปก็เบาดวย สังเกต ไหม พอฟงไปเรื่อย ๆ เนี่ย รูปเปนไง ? สังเกตพอกลับมาดูที่ตัว โปรง ๆ โลง ๆ อันนั้นธรรมะชําระกาย ชําระจิตใหผองใส ชําระกายใหเบาวาง เพราะความรูความเขาใจของเรา


































































































   278   279   280   281   282