Page 354 - มรรควิถี
P. 354
340
ดวงเดียวที่ผองใสทําหนาที่รับรู
กลับมายอนถึงวาคําวา “วิญญาณ” วิญญาณไมเที่ยง วิญญาณ
ก็คือจิตที่ทําหนาที่รู ตรงนั้นแหละเรียกวาวิญญาณ รูวาวาง รูวาเบา รูวาสงบ รูวาโลง รูวามั่นคง รูวาสวาง รูวาใส จิตของเรามีหลายระดับ เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดขึ้น ตัววิญญาณไมเที่ยง ถายกจิตขึ้นสูวิปสสนา พรอมกับไปกําหนดรูจิตที่ทําหนาที่รูถึงความไมมีอะไรอีกที ขั้นตอนสูง แลวนะ ลัดขั้นตอน กระโดดเลย ใครยกจิตขึ้นสูวิปสสนาได ก็จะละ กิเลสไดงาย ละความมีตัวตนไดงาย
ทีนี้ถาเราพิจารณาดูวา เมื่อความรูสึกหรือจิตเราวาง ตัววางหายไป เหลือแตจิตดวงเดียว เหลือแตจิตที่ทําหนาที่รู ใหโยงเขาบัญญัติเพื่อดู สภาวธรรม ก็พิจารณาดูวา จิตที่ทําหนาที่รูบอกวาเปนเราหรือเปลา ? จิต ที่วาง ๆ เบา ๆ ใส ๆ เขาบอกวาเปนเราหรือเปลา ? อันนี้คือการพิสูจน การพิสูจน พิจารณาในลักษณะอยางนี้ ตามสภาวะที่เปนจริง ถาพิจารณา เราก็จะเห็นวา แมแตจิตที่ทําหนาที่รู ก็ไมบอกวาเปนเรา มีแตจิตที่วาง ๆ จิตที่ผองใส จิตที่สงบ ทําหนาที่รับรู แลวจิตที่ผองใสนั้น ถามวามีกิเลส ตัวไหนเกิดบาง ? มีตัวโลภะ โทสะ โมหะ เกิดขึ้นไดไหม ? หรือมีแตจิต ที่ทําหนาที่รูชัดถึงความไมมีอะไรของรูปนาม ?
มีจิตที่รูชัดถึงความไมมีอะไรของรูปนาม แลวรูชัดถึงความไมมี อะไรนายึดถือ รูชัดถึงความไมมีแกนสารของรูปนาม วาไมมีอะไรเลย ที่เปนสาระ เปนแกนสาร ใหเรายึดมั่นถือมั่นไดเลย ทุกอยางวางเปลา ซึ่งเรียกวา “อนัตตา” หรืออยางบางแหงเขาเรียกวา “สุญญตา” วางเปลา จากความหมายแหงความเปนตัวตน เปนเรา เปนเขา ไมบอกวาเปนอะไร ไมบอกวาเปนใคร มีแตจิตที่ทําหนาที่รู หรือบางแหงเขาเรียกวา เหลือแตธาตุรู วิญญาณก็ไมใช มีแตธาตุรู คําวาธาตุรูในที่นี้ก็คือ เมื่อ บัญญัติขึ้นมาเรียกวาวิญญาณ หรือเรียกวาใจรู มีจิตทําหนาที่รู ก็คือตรง