Page 356 - มรรควิถี
P. 356
342
อันเดียวกัน เพียงแตวาธรรมะที่เอาไปใชเปนธรรมะขอไหน ถาวาโดย สัจธรรม ธรรมะก็คือรูปนามอันนี้ รูปนามอันนี้แหละคือการแสดงธรรมะ ของเขา แสดงถึงความเกิดขึ้น ตั้งอยู ดับไป มีแลวหายไป แสดงถึงกฏของ ไตรลักษณ ไมตองไปดูไกลเลย ตัวเราเองก็แสดง เกิดขึ้น ตั้งอยู ดับไป เกิดดับ เกิดดับ อยูตลอดเวลา อยูที่ปญญาของเราจะเขาไปพิจารณารับรู ถึงความเปนจริงตรงนั้นมากแคไหน
ทีนี้มันก็อยูตรงที่วา เจตนาหรือเปาหมายในการศึกษาของเรานั้นเปน ไปเพื่ออะไร ถาศึกษาธรรมะเปาหมายตรง ๆ เปาหมายจริง ๆ ของผูศึกษา ธรรมะ ของผูปฏิบัติธรรมก็คือ ความพนทุกข ถาเรามีเปาหมายตรงนี้ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก็ตาม ไมวาจะเกิดทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เกิด ขึ้นมาแลวทําใหเราเปนทุกข มีความทุกขเกิดขึ้น ตอไปก็หาวิธีดับทุกข อารมณอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นมาแลว ไมทุกข เราก็รับรูดวยเหตุผล ดวยเหตุ ปจจัย ไมหลงใหล ไมยึดติด แตถาเมื่อไหรที่มีทุกข เราตองหาวิธีดับทุกข ถามีเปาหมายเพื่อความดับทุกข
แลวที่แตละคนปฏิบัติธรรม เจริญสติปฏฐาน ๔ เจริญวิปสสนา เปาหมายก็เพื่อความดับทุกข บางคนไมอยากจะเกิดอีกแลว เบื่อแลว เกิดมาเยอะแลว หลายภพหลายชาติ เกิดชาติไหนก็เวียนวายตายเกิด เกิดชาติไหน.. เกิดแกเจ็บตาย ถามีโอกาสไดอยูจนแก กวาจะแกเราก็ทรมาน พอแกก็ทุกขอีก พอไมแกก็จะรูสึกวาอยูไมคุม ตายเสียกอน เกิดมาแลว ตายกอน ไมแก ก็ไมดีอีก เกิดอยูจนแกก็ลําบากอีก เห็นไหม..มีแตความ ทุกขเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นนี่การปฏิบัติธรรม เราปฏิบัติเพื่อความพนทุกข จึงตองพิจารณา ๒ สวน ๒ อยาง หนึ่ง..ก็คือดวยบัญญัติ หนาที่ที่เรา ตองทํา จะเอาธรรมะไปใชอยางไรกับหนาที่ของเรา ทําอยางไรเราถึงจะ ไมทุกข
ไมทุกขก็มี ๒ อยางอีก ไมทุกขใจ กับไมทุกขกาย ไมทุกขกาย