Page 357 - มรรควิถี
P. 357

นี่หายากนะ เกิดขึ้นแลวนี่หลีกเลี่ยงยาก นั่งเฉย ๆ ก็ทุกข นอนนาน ๆ เฉย ๆ ก็ทุกข เดินนาน ๆ ก็ทุกข เราจึงเปลี่ยนอิริยาบทบอย ๆ เพื่อบรรเทา ทุกข แตทุกขใจนี่สําคัญ ทําอยางไรไมใหทุกขใจเมื่อมีอารมณเขามา เมื่อมีอารมณเกิดขึ้น เขามากระทบทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ? สังเกตไหมที่เราทุกขเพราะอะไร ? ความทุกขใจเกิดขึ้นสวนมาก คือไมไดดั่งใจ ไมไดดั่งใจแสดงวาเราอยาก อยากใหเปนอยางงั้น อยาก ใหเปนอยางงี้ พอไมไดดั่งใจ ก็ทุกข ไมเปนอยางที่คิด เราก็ทุกข เราก็รู อยูวาทุกอยางไมเที่ยง ทุกอยางเปนไปตามเหตุปจจัย แตเราก็ยอมไม เขาใจ เมื่อไมเขาใจ เราก็ทุกข ถาเราเขาใจ เปนอยางนั้นแหละ เปนไป ตามเหตุปจจัย ที่เขาเรียกวา “เปนเชนนั้นเอง” “เปนอยางนั้นแหละ”
ลองดูสิ.. พิจารณาดูความไมมีอะไร ความไมมีเรา เมื่อไมมีตัวตนเรา จะหามสิ่งรอบขางเปนไปตามเหตุปจจัยไดไหม ? “ไมได” ทุกอยางยัง เปนไปตามเหตุตามปจจัยเหมือนเดิม สิ่งหนึ่งที่ไมเปนตามเหตุปจจัย อารมณภายนอก ก็คือจิตของเรา ถาเราแยกรูปนาม แยกจิตเราจาก อารมณอันนั้น เปนคนละสวนกัน แยกจิตกับกายเปนคนละสวนกัน ถึงแมกายจะทุกข ใจไมทุกขตาม กายจะปวด ใจไมทุกข กายจะเมื่อย ใจไมทุกข ใจสงบ ไมทุกข รูวาทุกข แตใจไมทุกข นั่นคือเราหลุดพน จากวงจร
พอมีอารมณเขามากระทบ เราพิจารณา รูแลวก็ดับ รูถึงอาการเกิด ขึ้น ตั้งอยู ดับไป แลวเราก็ไมไหลตามอารมณ ไมไหลตามกระแส อารมณ ที่เขามากระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นั่นคือกระแสโลก ที่เราเห็น เราไดยิน เราก็คลอยตาม เมื่อไหรเราไหลตาม เราก็จะรูสึกเจอคลื่น เราก็โขยกเขยกใชไหม ? มันเรียบก็เรียบนิ่ง ใจเราก็เหมือนกัน เราไหลตาม อารมณนั้นมากเทาไหร คลอยตาม พอตกที่สูงเราก็จะตกใจ
แตถาเมื่อไหรที่จิตเราถอยออกมา แยกสวนระหวางจิตของเรากับ
343


































































































   355   356   357   358   359