Page 358 - มรรควิถี
P. 358
344
อารมณที่เกิดขึ้น แยกสวนความรูสึกกับอารมณที่เกิดขึ้น จิตไมคลอยตาม ก็จะเปนเพียงผูดู เปนเพียงผูรู รูถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ทําความเขาใจสิ่งที่ เกิดขึ้น เขาใจแลวก็ปลอยไป วาง ไมตองยึดเอาไว ถาไมเขาใจเราก็ยึด นานหนอย ไมเขาใจก็เก็บไวนานหนอย เพื่อพิจารณาไตรตรอง เขาใจแลว ก็ปลอย
ทีนี้วา ถาเราไมมีฐานในการพิจารณา สมมติฐานในการพิจารณา เบื้องตน แตจะพิจารณาในความเปนบัญญัติเหลานั้น เรื่องราวเหลาน้ัน หรืออยากรูในสิ่งตาง ๆ เหลานั้น โดยไมมีเจตนาหรือสมมติฐานวาเรา ตองการพิจารณาอยูบนความวางไมมีอะไร พิจารณาอยูบนความไมมีเรา พิจารณาแตสิ่งที่กําลังเปนไปในปจจุบันเทานั้น จะพิจารณาเพื่อความ ดับทุกข ถาเราจะกําหนดรูเพื่อความดับทุกข เราก็จะรูแลววาทําอยางไร เพื่อที่จะไมใหทุกข แตถาเราไมมีเจตนาเพื่อความดับทุกข แตอยากศึกษา อยากรูเรื่องนั้น ก็ตองเขาใจวาเมื่อไหรที่เราคลอยตาม ความทุกขก็ เกิดขึ้น ตองยอมรับ ยอมรับที่เปนจริง ยอมรับวาทุกขแลว แตเมื่อทุกข เกิดขึ้นก็ตองยอมรับ
แคเรายอมรับในสิ่งที่กําลังเปนไป ความทุกขจะลดลง จะนอยลง แตถาเราไมยอมรับ ความทุกขนั้นตั้งอยูนาน เรื่องราวที่เกิดขึ้นหรือ กระแสปญหาที่เกิดขึ้น เราไหลตาม.. ไหลตาม.. เพราะเราพอใจที่จะทุกข นี่เห็นไหม..พอใจที่จะทุกข ทุกขกายไมทุกขใจ พอเราพอใจ ความทุกขใจ ลดลง เห็นไหม..นิดเดียว แคพอใจ เรารับได แตถาไมพอใจในความทุกข นั้น ปฏิเสธความทุกขที่เกิดขึ้น เราก็ตองถอยออกมาวาเราจะดับทุกข อยางไร
ความทุกขทางกายก็คือความลําบาก หนาที่การงานตาง ๆ ที่ทําให รูสึกรางกายออนเพลีย ออนลา เมื่อย เหนื่อย ความทุกขทางใจ คือความ หดหู ความเศราหมอง ความอึดอัด ความหนัก ความรอน ความกระวน