Page 37 - มรรควิถี
P. 37

เพื่อใหเราพิจารณา นั่นคือลักษณะของอนิจจังคือความไมเที่ยงตอง เปลี่ยนแปลง ที่เรียกวาทุกขัง ก็คือ ลักษณะของความเปนทุกขทนอยูใน สภาพเดิมไมไดตองหมดไป ที่เรียกวาอนัตตา ขณะนั้นการรับรูอารมณ ไมมีตัวตน บังคับไมได สภาวะที่เกิดขึ้นบังคับใหตั้งอยูในสภาพเดิมไมได เกิดขึ้นแลวตองดับ เสียงที่เกิดขึ้นแลวเราจะทําใหเสียงนั้น ตั้งอยูตลอดเวลา ไมได เกิดแลวตองดับ
เสียงที่เกิดขึ้นแลวดับไปนั้น ดับในลักษณะอยางไร ? บางคร้ังก็มี อาการดับแบบเปนขณะ ๆ บางครั้งก็มีอาการแบบวูบหายไปเปนชุด ๆ บาง ครั้งก็ดับแบบกระจายไป บางทีก็ดับแบบเกิดขึ้นแลวคอย ๆ เลือนหายไป นั่นคือลักษณะอาการเกิดดับ เพราะฉะนั้น เวลากําหนดอาการเกิดดับ ทุกครั้ง ทุกสภาวะที่เกิดขึ้นใหกําหนดรูในลักษณะอยางนี้ เพราะอะไร ? เพราะลักษณะอาการเกิดดับ ตรงนี้เปนสภาวปรมัตถ ไมมีเราไมมีเขาเขาไป เกี่ยวของ มีแตสติกําหนดรูอารมณที่เกิดขึ้น จะสังเกตเห็นวา ลักษณะอาการ เกิดดับอันนี้ ไมเปนที่อาศัยของกิเลส เพราะตั้งอยูไดไมนานแลวก็ดับไป กิเลสยังไมเกิดก็ดับไปกอน เราลองสังเกตดูวา เมื่อไหรที่เรื่องราวตาง ๆ ที่เรารับรู เกิดขึ้นแลวตั้งอยูนาน ยิ่งตั้งอยูนานเทาไหร ? ก็เปนที่อาศัยของ กิเลสมากเทานั้น เพราะอะไร ?
เพราะการตั้งอยูนานก็คือการปรุงแตง ยึดติดในอารมณ คิดเรื่อง ที่ทําใหทุกข เวลาที่เราคิดเรื่องที่ทําใหทุกข มักจะคิดเรื่องที่ผานมาแลวเพื่อ ใหทุกขมากขึ้น อยางเชนเวลาเกิดความโกรธ พอกระทบอารมณเฉพาะหนา โกรธปุบ แทนที่จะคิดหาวิธีดับความโกรธ ก็จะคิดยอนไปในอดีตวา เมื่อกอนคนนี้เคยทําอยางนี้ ๆ กับเรา ทําอยางนี้แหละที่ทําใหเราโกรธ มาเรื่อย ๆ เปนการปรุงแตงเพิ่มขึ้นมา หาเหตุผลเพื่อที่จะทําใหตนเองทุกข เขาเรียกเอาเชื้อมาสุมไฟใหมีมากขึ้น ๆ แทนที่จะรูสึกวาโกรธ ๆ แลวนะ ความโกรธไมดีเผาไหมจิตใจเราแลวนะ แลวยอนกลับมาดูตัวเอง นี่แหละ
23


































































































   35   36   37   38   39