Page 370 - มรรควิถี
P. 370
356
โลงมากขึ้น สงบมากขึ้น หรือ เปนอยางไร ? อันนี้เปนการพิจารณาดูจิต ในจิต
การรูจิตในจิตก็คือ ดูจิตเบา จิตโลง จิตโปรง จิตวาง จิตสงบ จิตหนัก อึดอัด ขุนมัว เศราหมอง นั่นคือลักษณะการดูจิต ถาจะใหลึกซึ้ง ยิ่งขึ้น แมแตจิตที่ทําหนาที่รู ก็ตองรูดวยวามีลักษณะอยางไร ? แตใน ชั้นนี้ใหรูถึงวา ขณะที่จิตเรากวางไมมีขอบเขต ใหความรูสึกเปนอยางไร ? ถารูสึกเบา ลองสังเกตดูนะถาจิตรูสึกเบา สังเกตดูวาจิตที่เบากับตัวที่ นั่งอยู เปนสวนเดียวกันหรือคนละสวนกัน ? จิตที่เบากับตัวที่นั่งอยูเปน สวนเดียวกันหรือคนละสวนกัน ? การที่พิจารณาอยางนี้ไมจําเปนตอง ใหจิตกลับเขามาที่ตัวหรือใหเล็กเทากับตัว พิจารณาดวยจิตที่รูกวาง นั่นแหละ จิตที่กวางไมมีขอบเขตนั่นแหละ สังเกตวาจิตที่เบาที่กวางกับ ตัวที่นั่งอยู เปนสวนเดียวกันหรือคนละสวน ?
ใครที่รูสึกวาเห็นเปนคนละสวนกัน ตอไปใหสังเกต ใหทําอยางนี้นะ ฝกการยายจิต ใหเอาจิตที่เบามาไวที่มือ เอาจิตที่เบามาที่มือแลว สังเกต วาที่มือรูสึกอยางไร ? รูสึกหนักหรือเบา ? จากนั้นก็ยายจิตที่เบาไปท่ีแขน แลวก็สังเกตวาเมื่อจิตที่เบาไปที่แขน ที่แขนรูสึกอยางไร ? รูสึกหนัก ? รูสึกเบา ? มีรูปรางหรือไมมีรูปราง ? ไมตองรีบก็ไดนะ ชา ๆ ถาทําไมทัน ก็ทําซ้ํา ทําซ้ําไดไมเปนไร นั่นเปนการฝกยายจิต การที่เราสามารถแยก รูปนามหรือทําจิตใหวางไดแลว ตองสามารถใชจิตที่วางนั้นมารับรู อารมณตาง ๆ ได เราจะเปนผูที่รับรูอารมณตาง ๆ ดวยจิตที่วาง เพราะ ฉะนั้นการฝกยายจิตก็เหมือนการฝกเอาจิตที่วางมารับรูอารมณ จิตที่ วางที่กวางไมมีขอบเขต ตอไปก็กลายเปนตัวสติ
เมื่อเอาจิตที่เบาวางมาที่แขนได ตอไปใหเอาจิตที่เบาวางไปที่สมอง จิตที่เบาวางเขาไปที่สมอง ไมตองใหมีรูปรางสมอง ครอบคลุม ล็อค เอาไว ใหจิตที่วางเบาเขาไปและสามารถทะลุสมองได เอาจิตที่เบาวางไปที่