Page 377 - มรรควิถี
P. 377

เราตองรับรูเปนปรกติ ปฏิเสธไมรูไมได ตาดีก็มีการเห็นเปนธรรมดา สายตายังดีก็เห็นทุกอยางที่ผานเขามา ทั้งสิ่งที่ดีและไมดี หูที่ดีก็ไดยิน ทุกเสียงที่เกิดขึ้น ที่ผานเขามาทั้งดีและไมดี ลิ้น.. ประสาทลิ้นยังดีก็สามารถ ไดรสเปรี้ยวหวานมันเค็ม รูหมด กายสัมผัส รูเย็นรอนออนแข็งเครงตึง รับรูตลอด เพราะการสัมผัสเรารูสึกได ลมสัมผัสปะทะรูป เราก็รูสึกวามี ลมสัมผัส แสงแดดกระทบรูป ก็รูสึกวามีความรอนเขามากระทบ แตอารมณ เหลานั้นถาเราใชจิตที่วางเบาเปนผูรับรู อารมณเหลานั้นจะไมบีบคั้นจิตใจ ของเราใหเศราหมองหรือเปนทุกข
เพราะฉะนั้นนี่เราใชจิตที่วางรับรู ใชจิตที่เบารับรูทุก ๆ อารมณที่ เกิดขึ้น จิตที่เบาตรงนี้ที่บอกวากลายเปนตัวสติ ถาสติเราแคบกวาตัว อารมณจะเขามาถึงตัวทันที อยางเชน เวลาเราเจอสิ่งที่มากระทบ เรารู เรามีสติรูนะ รูวาเสียงเขามาแลว แตทําไมมันหงุดหงิด ยังโกรธอยู ? รู ไมใชไมรู รูชัดดวยวาอันนี้เริ่มเกิดแลวนะ เริ่มหงุดหงิดแลวนะ แตเรา เอาไมอยูหรือดับไมได เพราะเปนการรูอยางสามัญ เขาเรียกสามัญสติ แตไมใชโลกุตตรสติ เปนสติที่รูตามธรรมดา แตไมใชสติที่ไปรูถึง การดับทุกข หรือปองกันทุกขอันนั้น
แตถาเราเอาจิตที่วาง กวางกวาอารมณเหลานั้น ถึงแมกระทบ มันก็จะกระทบขางนอก กระทบในความวางแลวก็ดับไป นี่จะเปนโลกุต- ตรสติ เปนการรับรูที่ไมมีตัวตน ความทุกขไมเกิดขึ้น รูแตไมทุกข เพราะ ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นทางหู ตา จมูก ลิ้น กาย หรือใจของเรา เกิดกับใจนี่ สําคัญ ทางตาพอเราหันไปก็หายแลว ตามองไมเห็น แตใจยังเก็บอยูเลย ใชไหม ? พอหันหลังให ตามองไมเห็น แตใจยังแบกเอาไป ยังเก็บอยูเลย เพราะฉะนั้นทุก ๆ อารมณที่เกิดขึ้นไปรวมอยูที่ใจ เมื่อไหรที่เราควบคุมจิต เราได หรือเราสามารถขยายจิตของเราใหกวางได ใหแคบได เราก็จะดับ อารมณนั้นได ดับรสชาติของอารมณนั้นได
363


































































































   375   376   377   378   379