Page 378 - มรรควิถี
P. 378
364
เพราะฉะนั้นความทุกขที่เกิดขึ้นคือรสชาติของอารมณที่เขามา ความไมสบายใจ ความขัดเคืองใจ อารมณเหลานั้นเปนเหตุปจจัยอยางหนึ่ง ใหเกิดอุปาทานการยึดติดมีตัวเรา มีความเปนเราเกิดขึ้นขณะนั้นนะ ชั่วขณะนั้นมีเราเกิดขึ้น มันก็จะหนัก อึดอัด ไมสบายใจ หงุดหงิดเกิดขึ้น แตถาขณะนั้นไมมีเรา กระทบแลวไมมีเราเปนผูรับ มีแตความรูสึกที่ วางเบาทําหนาที่รับรู สังเกตไดเลย อารมณนั้น จิตเราจะรูสึกสงบ นิ่ง เบา ๆ ไมมีความรูสึกหงุดหงิด หรือไมพอใจ เพราะฉะนั้นการฝกจิตตรงนี้ ถาเราอยากใหชํานาญ ทําจิตใหวางไดแลว เอาไปใชบอย ๆ ไมจําเปนตอง รอใหความทุกขเกิดกอนแลวคอยใชสติ
อยารอใหความทุกขเกิดกอนแลวใชสติ เราจะไมทัน ใหใชสติ บอย ๆ เหมือนเราใชจิตที่วางบอย ๆ เพื่อปองกันอารมณที่จะเขามา ไมใหเกิดความทุกขกับอารมณที่จะเกิดขึ้น แตถาเมื่อไหรที่เรารอให กิเลสเกิดกอน ใหความทุกขเกิดกอน แลวคอยเจริญสติ ชา ชาไป เพราะ ฉะนั้นเราตองการละความโกรธ โกรธเมื่อไหรเราก็ดับ รอใหโกรธกอน คอยดับ ไมทันหรอกถารอใหโกรธกอน ความโกรธก็เกิดแลว ใชไหม ? ถารอใหโกรธกอน แสดงวาความโกรธเกิดกอนสติเรา ทําไมไมใหสติ เกิดกอนความโกรธ ? ใหสตินําหนา มีอารมณเกิดขึ้นมา มีสติรับรู เพื่อ ไมใหความโกรธเกิดขึ้น ปองกัน
ที่จริงที่พูดมาก็คือตัว “วิธีปองกัน” ตรงนี้แหละ การที่เราสามารถ เอาจิตที่วางเบาไปใชได ความโกรธจะไมเกิด จิตจะรูสึกสงบ หรือวาง ๆ เบา ๆ แตไมใชไมรูอะไร ตางกันนะ วาง ปลอยวางกับปลอยทิ้ง วางจาก อะไร ? วางจากตัวตน วางจากความรูสึกวาเปนเรา เมื่อวางจากตัวตน ก็วาง จากความทุกข ไมใชวางงาน งานเปนภาระ เปนหนาที่ที่ตองทํา แตถาทํางาน ดวยจิตที่วาง จิตที่เบา ตรงนี้ตางหากสําคัญ ถาทําไดก็จะมีประสิทธิภาพ ทําไดอยางไมทุกข