Page 379 - มรรควิถี
P. 379
และอีกอยางหนึ่งก็คือ ที่ใหเราพิจารณาถึงวาขณะที่จิตกวางไมมี ขอบเขต จิตที่เบาวางไมมีขอบเขต ถามวาบอกวาเปนเราหรือเปลา ? ตรง นั้นใหพิจารณา แมจิตเองก็ไมบอกวาเปนเรา แมตัวก็ไมบอกวาเปนเรา ตรงนี้คือความเปนอนัตตา ความเปนอนัตตาอันนี้บอกอะไรกับเรา ? สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ ธรรมทั้งหลายทั้งปวงเปนอนัตตา แมรูปนามอันนี้ ที่เราอาศัยอยูเกี่ยวของกันอยู ตลอดทุกวันทุกวินาที ยังไมบอกวาเปนเรา เลย แลวสิ่งที่อยูรอบตัวอันไหนบางที่บอกวาเปนของเรา ?
อยางธรรมานุสติ เราระลึกถึงอะไรเพื่อที่จะบรรเทาความทุกขของ เราได ? มีความทุกขขึ้นมาใหนึกถึงธรรมะ นึกถึงธรรมะเอาไว นึกถึงธรรมะ ขอไหนความทุกขถึงจะหายไป ? นึกถึงความเปนอนิจจัง ไมเที่ยง มันไม เที่ยง เกิดขึ้นแลวก็หายไป ดับไป นึกถึงความเปนทุกข ตั้งอยูในสภาพเดิม ไมได เราเรียกวาเกิดดับ ลองนึกถึงความเปนอนัตตาสิ เห็นความไมมีตัว ตนของตัวเองในขณะนี้เดี๋ยวนี้ จริง ๆ ลองดูวารูสึกเปนไง ? ทุกอยางวาง เปลา สุญญตา ไมมีแกนสารที่เราจะยึดไดเลย รูปอันนี้ไมมีอะไรเปนแกน สารที่เรายึดเปนสรณะเปนที่พึ่งไดตลอด กลายเปนของวางเปลา แลวชีวิต ของเรา เราจะยึดอะไรเปนสรณะเปนที่พึ่งสูงสุด ?
สิ่งรอบขางก็ยึดไมได แตอาศัยกัน เปนเหตุเปนปจจัยซึ่งกัน เปนปจจัยคือเปนสิ่งที่อาศัยกัน แตไมใชเปนสรณะ บางครั้งเราลืม เอาสิ่ง ที่เปนปจจัยสิ่งที่อาศัยมาเปนสรณะ จนเรายึด แลวเราก็ไมสามารถ ปลอยได ก็กลายเปนทุกข สิ่งที่เราอาศัยไดชั่วขณะหนึ่ง ๆ วัตถุสิ่งของเรา อาศัยไดชั่วชาตินี้ หลังจากตายไปไมรูอาศัยอะไรแลวนะ ใชไหม ? เพราะ ฉะนั้นพระพุทธเจาจึงใหเราเอาความจริงเปนสรณะ เอาความจริงเปนที่พึ่ง เอาความจริงเปนที่ตั้ง ถาเมื่อไหรเอาความจริงเปนที่ตั้ง ยังไงก็เปนอยางนั้น
ความจริงโดยบัญญัติ สมมติบัญญัติอยางหนึ่ง แตความจริงอยาง หนึ่งที่ทําใหเราพนทุกขก็คือ ความจริงของรูปนามอันนี้ ไมมีอะไรเลย
365