Page 47 - มรรควิถี
P. 47
ที่เขามากระทบทางทวารทั้ง ๖
พระพุทธเจาทรงมีอุบายอันแยบคาย ในการพิจารณาสภาวธรรม
ที่เรียกวา ธัมมวิจยะ หรือสอดสองธรรม คือการวิจัยธรรม อยางเหตุการณ ตาง ๆ ที่เขามาในชีวิตของเรา ถาเราอาศัยความเคยชินวาสิ่งนี้เกิด มัน ตองเปนอยางนี้ ก็จะขาดการพิจารณาใหละเอียดมากขึ้น เพราะอะไร ? เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไมไดเกิดเวลาเดียวกันตลอดไป เหตุการณแบบนี้ เกิด เวลานี้เปนอยางนี้ แตเหตุการณแบบนี้เกิดอีกเวลาหนึ่ง ผลจะเปนอีกอยางหนึ่ง เหตุการณอันนี้ ไปเกิดกับอีกคนหนึ่ง ใหผลอีกอยางหนึ่ง เพราะอะไร ?
เพราะวาปจจัยเปลี่ยนไปแลว ไมใชปจจัยเดิม เหตุการณเดิม สถาน ที่ใหม กับคนใหม สถานที่ใหมก็เปนปจจัยอยางหนึ่ง คนอีกคนหนึ่งก็ เปนปจจัยอีกอยางหนึ่ง ทําใหผลไมเหมือนเดิม จึงทําใหเกิดความรูสึก วา ทําไมการกระทําเหลานี้ เมื่อกอนเคยทําแบบนี้แลวไดผล แตมาทํา ตรงนี้กลับไมไดผล เพราะเหตุปจจัยเปลี่ยน เพราะฉะนั้นถาเขาใจถึง เหตุปจจัยตรงนี้ ตอไปเราก็จะมีการพิจารณามากขึ้น เมื่อเจอแบบนี้ ควรทําอยางไร ? ปรับปรุงตรงไหนบาง ? นี่คือประโยชนของการพิจารณา ถึงการเปลี่ยนแปลง ทีละขณะ ทีละขณะของสภาวธรรมตาง ๆ
การพิจารณาอารมณตาง ๆ ที่มีการเกิดดับ ทีละขณะ แตละขณะ ทุก ๆ ขณะที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นแลวก็ดับไป เกิดขึ้นแลวก็ดับไป เราจะเขาใจ ถึงเหตุปจจัยตรงนั้นได ยกตัวอยางขณะที่เรากําหนดลมหายใจเขาออก ใหม ๆ มีความตื่นตัว จะเห็นวาลมหายใจเกิดดับชัดเจน ตื่นตัวดี หายใจ ออกยาว แลวก็หมดไป หายใจเขายาว แลวก็หมด แตพอสักพักจิตถอย ออกมาสติออน จากที่ยาวชัดเจนก็เริ่มไมชัดแลวสงบอยางเดียว นี่ก็เปน ปจจัยหนึ่งที่ทําใหอาการเกิดดับของลมหายใจไมชัด แตเมื่อเอาจิตหรือความ รูสึกเขาไปในลมหายใจอีกก็ชัดอีก จากที่เคยยาวก็จะขาดเปนชวง ๆ อันนี้ ก็เปนเหตุอยางหนึ่งที่ทําใหเขาไปเห็นอาการเกิดดับขณะเล็กของลมหายใจ
33

