Page 58 - มรรควิถี
P. 58

44
ตองรูถึงประโยชนของความวางตรงนี้ หรืออุเบกขาตรงนี้ บางคนไมทุกข ไมสุข แตก็พยายามดิ้นรนเพื่อจะใหเจอความสุข ขณะที่ไมทุกข ทําไม ไมเห็นความดีของความไมทุกข ? ใหเห็นความดีของความไมทุกข ถาเรา เห็นความดีของความไมทุกขเราจะรูสึกสันโดษ ไมตองดิ้นรนมากนัก ทําอะไรก็ทําดวยสติ ทําอะไรก็ทําดวยปญญา นั่นเปนสิ่งที่เราควรพิจารณา มาก ๆ เพราะสวนมากคนเราจะวิ่งหา วิ่งตามความตองการ วิ่งตามความ ปรารถนาของตน จนเกิดความรูสึกทุกข บางคนทุกขโดยที่ไมรูวาทุกข
ทุกขแลวเราไมรูวาทุกขนั้นแกยาก ถาทุกขแลวรูวานี่คือความทุกข จะแกความทุกขไดงาย ทุกคนปฏิเสธความทุกข เมื่อเราเห็นความทุกขแลว ตอไปก็จะรูวิธีคิด คิดที่จะดับทุกข แตถาเมื่อไหรที่เราเห็นทุกขแลวเรา ไมรูวาทุกข การที่จะแกเปนเรื่องยาก เพราะฉะนั้นจึงตองรูชัด บางครั้งเรา ปฏิบัติไปวางไปหมด กําหนดอะไรไมได วางหาอะไรไมเจอ ใหถามตัวเอง วา ที่ไมเจอกําลังหาอะไรอยู ? หาอาการเกิดดับ ? หาพลัง ? หาความสุข ? หรือหาอะไร ? ขณะที่วางสิ่งที่เราเห็นก็คือความวาง ใหรูชัดตรงนั้น ความวางนั้นใส ความวางนั้นมืด ความวางนั้นสงบ ในความวางนั้นมีอาการ เคลื่อนไหวไหม ? ความวางนั้นดีอยางไร ? ใหรูตรงนี้กอน ความวางนั้น เปนอยางไร ? รูสึกโปรง รูสึกเบา ฯลฯ เมื่อเรารูสึกโปรง รูสึกเบา ฯลฯ นั่นคือ สภาวะในขณะนั้น ใหเรากําหนดความเบานั้นไมตองไปหาอะไร ถาใส ก็กําหนดความใสนั้นนั่นคือสภาวะ ใหกําหนดความใส ดูการเปลี่ยนแปลง ของความใส ไมตองไปรออาการเกิดดับเหมือนเกา ที่เคยเกิดดับวูบวาบ ๆ หรือวาเคยเกิดดับแลวกระจาย หรือมีอาการหมุน เมื่อเห็นวาวางแลวไมมี อะไรเกิดขึ้น ใหสังเกตนิดหนึ่ง ขณะที่วางไมมีอะไรเกิดขึ้น จะมีผูดูหรือ ใจรูที่คอยสังเกตดูวาอะไรจะเกิดขึ้น ก็คือสติทําหนาที่สังเกตดูวาอะไร จะเกิดขึ้น นั่นแหละ คืออารมณที่เราตองกําหนด สติทําหนาที่สังเกต ความรูสึก กําหนดความรูสึกเอง กําหนดตัวสติเอง รูแลวดับมั้ย ? พอรูวา


































































































   56   57   58   59   60