Page 20 - แนวทางการปฏิบัติธรรม
P. 20
14
ลมหายใจของเรานี่แหละ ความคิดเป็นอาการทางจิต ที่เรียกว่าจิตตา- นปุ สั สนาสตปิ ฏั ฐาน คอื การตามกา หนดรอู้ าการทเี่ กดิ กบั จติ หรอื ความคดิ ที่เกิดขึ้น
บางครั้งผู้ปฏิบัติธรรม พอเริ่มนั่งสมาธิได้สักห้านาที พออยู่กับ ลมหายใจ อยู่กับพองยุบได้สักห้านาที จิตก็เริ่มแว็บไปนู่นแว็บไปนี่ เริ่มคิดนู้น คดิ นี้ เรอื่ งตา่ ง ๆ ลอยเขา้ มา ทงั้ อดตี ทงั้ อนาคตเตม็ ไปหมด ยงุ่ ไปหมดเลย จนไมส่ ามารถกา หนดลมหายใจหรอื พองยบุ ได้ ตรงนแี้ หละเขาเรยี กวา่ เปน็ อารมณ์จร ถ้าเป็นแบบนั้นในขณะที่เรานั่งสมาธิเจริญกรรมฐานอยู่ จะทา อย่างไร ? ถ้าเป็นแบบนั้น ทาใจให้สบาย ๆ นิ่ง ๆ ตั้งสติให้ดีก่อน ตั้งสติ ดี ๆ แล้วก็ตั้งใจ เราจะเปลี่ยนอารมณ์หลักแล้ว! จากที่เคยตามกาหนดรู้ ลมหายใจ ตอนนี้ลมหายใจก็กาหนดไม่ได้ มันมีแต่ความคิด ความคิด ชัดกว่าลมหายใจ อย่ากระนั้นเลย เอาความคิดนี่แหละมาเป็นอารมณ์ กรรมฐาน! เอาความคิดมาเป็นอารมณ์กรรมฐานเป็นอย่างไร ? เราจะ กาหนดรู้อาการเกิดดับของความคิด เวลาความคิดเกิดขึ้น เราก็ดูว่าความคิดนี้ มาแล้วหายแบบไหน เกิดแล้วดับอย่างไร ใหม่ ๆ ผู้ปฏิบัติกาลังสมาธิ- สติยังไม่แก่กล้าพอ เราก็อาจจะไม่เห็นการดับ เห็นแต่เกิดใหม่ ๆ ๆ ความคิดเดี๋ยวมา ๆ ๆ มาเรื่อย ๆ มาเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่องอยู่ อันนี้คือ เป็นธรรมชาติ จริง ๆ ไม่ต่างกับลมหายใจ เหมือนเรานั่งสมาธิใหม่ ๆ เรา ก็ไม่เห็นว่าลมหายใจมันหยุด มันสะดุด มันขาดอย่างไร มีแต่ลมหายใจ วนไป หายใจเข้า-หายใจออก หายใจเข้า-หายใจออก... อยู่อย่างนั้นตลอด เวลา กเ็ หมอื นความคดิ ทเี่ กดิ ขนึ้ เดยี๋ วกม็ า เดยี๋ วกม็ า... เกดิ ขนึ้ อยเู่ รอื่ ย ๆ
แต่ความแตกต่างอย่างหนึ่งตรงที่ว่า พอความคิดเกิดขึ้น เขาเป็น เรื่องเป็นราวว่าเป็นอะไร ลมหายใจเขาไม่เป็นเรื่องราว เป็นแค่ลมหายใจ