Page 27 - แนวทางการปฏิบัติธรรม
P. 27

สิ่งหนึ่งที่เราจะเห็นได้ก็คือว่า พอจิตมีความผ่องใส มีความอิ่ม มีความสุข จากธรรมะอย่างนี้ ความอยากต่าง ๆ น้อยลง แปลกมาก! รู้สึกว่าไม่ต้อง ได้อะไร แล้วก็รู้สึกว่าเป็นความสุขที่พอดี ไม่ต้องได้วัตถุแล้วถึงจะมีความสุข แตก่ ลบั รสู้ กึ วา่ เปน็ ความสขุ ทพี่ รอ้ มทจี่ ะให้ เปน็ ความสขุ ทที่ า ใหเ้ มตตาเกดิ เป็นความสุขที่ดีมาก ๆ เป็นความสุขที่เกิดจากธรรมะ เป็นความสุขที่เกิด จากการละ เปน็ ความสขุ ทเี่ กดิ จากการคลายอปุ าทาน จากการยดึ จากการ เข้าใจผิดคิดว่าตัวนี้เป็นของเรา จิตนี้เป็นของเรา
เพราะฉะนนั้ การกา หนดรสู้ ภาวธรรมแบบนอ้ี ยเู่ นอื ง ๆ อยบู่ อ่ ย ๆ จะทา ใหจ้ ติ เรามคี วามสขุ สงบ เปน็ การคลายอปุ าทาน ยงิ่ สต-ิ สมาธ-ิ ปญั ญา แกก่ ลา้ มากขนึ้ เทา่ ไหร่ จติ กจ็ ะคลายมากขนึ้ ๆ ยงิ่ เรามเี ปา้ หมายมเี จตนาที่ จะละอะไรที่ทาให้เป็นปัญหาเป็นอุปสรรคกับชีวติ ทที่าให้เราเป็นทุกข์จิต จะละ... ละอะไร ? จริง ๆ แล้วคือละกิเลสของเราเองแหละ ตัวสาคัญที่ จะทาให้เราเป็นทุกข์ ความรู้สึกหรือความคิดบางอย่างที่เกิดขึ้นแล้วทาให้ เราเป็นทุกข์ ทาให้เกิดปัญหากับเรา เราต้องละตัวนั้น เราไปละข้างนอก ไม่ได้หรอก สิ่งข้างนอกเขาก็เกิดขึ้นตามปกติของเขา เพราะฉะนั้น ในการ ปฏิบัติธรรม พอพิจารณากาหนดรู้ต่อเนื่องชัดเจน สติมีกาลังมากขึ้น ยิ่ง เห็นชัดว่า จิตที่ว่าง จิตที่เบา จิตที่สงบ กับ เรื่องที่คิด เป็นคนละส่วนกัน มากขึ้น เราก็จะเห็นชัดขึ้นว่า ทาไมเราถึงต้องคิดแบบนั้น ถ้าเรามีเจตนาที่ จะศกึ ษาตวั เองมากขนึ้ เรยี นรทู้ า ความเขา้ ใจตวั เองมากขนึ้ ความคดิ ทเี่ กดิ ขึ้นต่าง ๆ นั่นแหละเขาจะเป็นตัวฟ้องเลยว่าปกติเราชอบคิดในแง่ไหน เรา ก็จะเข้าใจตัวเองมากขึ้นว่า สิ่งที่คิดนาคุณประโยชน์มาให้เรา หรือนาโทษ มาให้เรา หรือเป็นสิ่งไร้สาระ เราชอบคลุกคลีอยู่กับเรื่องไหน
21
































































































   25   26   27   28   29