Page 42 - แนวทางการปฏิบัติธรรม
P. 42
36
ทนี ลี้ องสงั เกตตอ่ ไปอกี วา่ ในเมอื่ เหน็ วา่ จติ ทที่ า หนา้ ทรี่ ู้กบั ความคดิ เปน็ คนละสว่ นกนั จติ ทที่ า หนา้ ทรี่ กู้ วา้ งกวา่ ตวั ใหญก่ วา่ ตวั แลว้ รสู้ กึ สบาย ความรู้สึกที่เบาที่สบายที่กว้างกว่าตัว บอกว่าเป็นเราไหม หรือแค่รู้สึก สบาย รู้สึกเบา เป็นแค่เพียงจิตดวงหนึ่งที่ทาหน้าที่รู้อารมณ์เท่านั้นเอง ? การสังเกตอีกจุดหนึ่งเพื่อความชัดเจนว่าเขาไม่ได้บอกว่าเป็นเรา ก็คือให้ สังเกตตรงที่ว่า ในขณะที่จิตที่ว่างเบากว้างกว่าตัว จิตที่ว่างเบา กับ ตัว เขา เป็นส่วนเดียวกันไหม หรือว่าจิตที่ว่างเบาเขาเป็นคนละส่วนกับตัว ? อันนี้ สังเกตบ่อย ๆ สังเกตซ้า ๆ เพื่อความชัดเจน เพื่อไม่ให้เราไปหลง ถ้าเรา เห็นไม่ชัด เดี๋ยวก็มีโมหะหลงเข้าไปยึดว่าตัวนี้เป็นของเราอีก ที่ให้สังเกต อยา่ งนี้ เพราะสว่ นใหญแ่ ลว้ คนเรามกั จะคดิ วา่ ตวั นเี้ ปน็ ของเรา เราเปน็ สงิ่ นี้ แล้วถ้าจิตเรากว้างกว่าตัวล่ะ ? จิตที่กว้างกว่าตัว เขาเป็นส่วนเดียวกับตัว หรือเป็นคนละส่วนกัน ? นี่คือการพิจารณาการสังเกตสภาวธรรม ความ ตอ่ เนอื่ งตอ่ ไป เราเหน็ วา่ จติ ทที่ า หนา้ ทรี่ ู้ กบั ลมหายใจ เปน็ คนละสว่ นกนั จิตที่ทาหน้าที่รู้ กับ พองยุบ เป็นคนละส่วนกัน จิตที่ทาหน้าที่รู้ กับ ความคิด เป็นคนละส่วนกัน... แล้ว จิตที่ทาหน้าที่รู้ กับ ตัวที่นั่งอยู่ เขาเป็นส่วน เดียวกัน หรือคนละส่วนกัน ?
ถา้ เราเหน็ วา่ จติ ทที่ า หนา้ ทรี่ ู้ กบั ตวั ทนี่ งั่ อยู่ เปน็ คนละสว่ นกนั จติ ทที่ า หนา้ ทรี่ กู้ วา้ ง มคี วามเบา มคี วามผอ่ งใส มคี วามสวา่ ง ตวั กน็ งั่ นงิ่ ๆ อยู่ แลว้ อนั ไหนทบี่ อกวา่ เปน็ เรา... ตวั ทนี่ งั่ อยบู่ อกวา่ เปน็ เราไหม จติ ทที่ า หนา้ ทรี่ ู้ บอกว่าเป็นเราไหม ? คาถามเหล่านี้ถามตัวเองบ่อย ๆ เพื่อที่จะเป็นการ ตอบตัวเอง เพื่อการคลายอุปาทาน ความหลงเข้าไปยึดว่า ตัวเป็นของเรา จติ เปน็ ของเรา ทา ไมพระพทุ ธเจา้ จงึ ตรสั วา่ รปู นามขนั ธห์ า้ นนั้ เปน็ อนตั ตา อนัตตา ในความหมายหนึ่งคือ ไม่ได้บอกว่าเป็นตัวเราของเรา ไม่ใช่สัตว์