Page 44 - สภาพจิต
P. 44
38
ๆ ซ่ึงเคยพูดไปแล้วแต่ก็ขอย�้าเพ่ือให้เราท้ังหลายที่ปฏิบัติธรรมจะได้ระลึก และรู้ว่าที่ปฏิบัติธรรมอยู่นั้นพิจารณาอะไร เมื่อเราไม่ลืม เปา้ หมายในการกา หนดอารมณห์ ลกั ในการปฏบิ ตั ิ การปฏบิ การปฏบิ ตั ตั ธิ รรมของเรา ก็จะไม่ไขว้เขวไป เมื่อมีสภาวะอารมณ์ที่เป็นปัจจุบันเกิดขึ้น ถึงการเกิดขึ้น-ต้ังอยู่-ดับไป เพราะฉะนั้น เมื่อมีเวทนาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเวทนาทางกายหรือเวทนา ทางจิตก็ตาม ตั้งอยู่-ดับไปของอารมณ์นั้น ๆ ๆ ของสภาวธรรมน้ัน ๆ ๆ เมอื่ มเี วทนาทางกายเกดิ ขนึ้ มา เรากจ็ า า า า า า า า า า า า า า า า แนกตามความแตกตา่ งของ ลักษณะของเวทนา เป็นความปวด เป็นอาการเม่ือย เป็นอาการชา เป็น เป็น เป็น เป็น เป็น เป็น เป็น เป็น อาการคัน บางขณะเวทนาเป็นกลุ่มก้อน เป็นแท่ง เป็นเส้น หรือเป็นจุด ลักษณะที่แตกต่างกันนี้เป็นตัวบ่งบอกถึงก�าลังของสติสมาธิระดับหน่ึง อาการของเวทนาทางกายที่มีลักษณะอาการแปล๊บ ๆ ๆ หรือคัน ๆ ๆ ยุกยิก เหมือนมีอะไรไต่ตามหน้า ไปอีกระดับหน่ึง รู้ว่าขณะนี้เวทนาท่ีเกิดขึ้นต่างจากเดิมอย่างไร “ความต่างจากเดิมของ เวทนา” หมายถึงจากอาการปวดท่ีเป็นกลุ่มก้อน อาการปวดเป็นแท่ง หรือ หรือ ปวดเป็นเส้น หรืออาการปวดนั้นเป็นจุดแปล๊บ ๆ เปลี่ยนเป็นอาการคัน น่ีคือ ลกั ษณะของเวทนาทเี่ กดิ ขนึ้ ทผี่ ปู้ ฏบิ ตั พิ งึ รู้ และไมว่ า่ เวทนาทางกายจะเปน็ ความปวด ความเม่ือย อาการชา หรืออาการคันก็ตาม ผู้เจริญวิปัสสนา รู้ถึง รู้ถึง ความเปน็ อนจิ จลกั ขณะ-ทกุ ขลกั ษณะ-อนตั ตลกั ขณะ ขณะ อนั นจ้ี ะพดู อยเู่ สมอเลย