Page 195 - Publicationa15
P. 195
ระบอบประชาธิปไตยในอุดมคติ 187
ใช้อ�านาจระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ ในสภาล่างอย่างเป็นธรรม ซึ่งต่างจาก
ตัวแบบเสียงข้างมากกินรวบ เป็นการเมืองแบบเป็นอริกัน ฝ่ายแพ้ไม่ได้รับ
ส่วนแบ่งในการใช้อ�านาจบริหาร ฝ่ายชนะรับไปทั้งหมดเพียงพรรคเดียว
(2) ดุลอ�านาจระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ ระบบการเมือง
ตามตัวแบบข้างต้นอ�านาจไม่เบ็ดเสร็จหรือครอบง�าโดยฝ่ายบริหารหรือฝ่ายสภา
ในระบบการเมืองแบบสวิสซ์ สมาชิกสภาผู้แทนได้รับเลือกเป็นการเฉพาะตัว
อยู่ในต�าแหน่งคราวละ 4 ปี ในระหว่างระยะเวลาดังกล่าว สภาผู้แทนราษฎร
ไม่มีอ�านาจออกเสียงลงมติไม่ไว้วางใจฝ่ายบริหาร แม้ว่าร่างกฎหมายหรือ
ร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกในคณะรัฐบาลเสนอจะไม่ผ่านสภา ก็ไม่มีความ
จ�าเป็นที่สมาชิกผู้นั้นหรือรัฐบาลจะต้องลาออกจากต�าแหน่งในประเทศ
เบลเยี่ยม แม้รัฐสภาจะมีอ�านาจออกเสียงลงมติไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี แต่
เนื่องจากรัฐบาลมักจะเป็นรัฐบาลผสมที่มีฐานกว้าง การลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล
จึงมักไม่เกิดขึ้น
(3) ระบบหลายพรรค ทั้งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์และประเทศ
เบลเยี่ยม ระบบพรรคการเมืองเป็นระบบหลายพรรค และไม่มีพรรคการเมืองใด
ที่มีที่นั่งใกล้ที่จะเป็นเสียงข้างมากแต่เพียงพรรคเดียว
(4) ระบบเลือกตั้งเป็นระบบสัดส่วน ค�าอธิบายของสาเหตุที่ท�าให้เกิด
ระบบพรรคการเมืองแบบหลายพรรค ส่วนส�าคัญอยู่ที่ระบบเลือกตั้งใน
สองประเทศนี้เป็นระบบสัดส่วน ในขณะที่ระบบเลือกตั้งในประเทศอังกฤษและ
ประเทศในตัวแบบเสียงข้างมากกินรวบเป็นแบบเขตเดียวคนเดียว ไม่ค�านึงถึง
สัดส่วนของคะแนนเสียงที่พรรคการเมืองแต่ละพรรคได้รับโดยรวม
(5) กลุ่มผลประโยชน์มีการจัดตั้งเป็นล�าดับชั้น (corporatism) ใน
ประเด็นนี้ยังมีความเห็นไม่ค่อยตรงกันนักในหมู่นักวิชาการ เพราะสหภาพ
แรงงานในสองประเทศ คือสวิตเซอร์แลนด์และเบลเยี่ยมมีความเข้มแข็งในการ
จัดตั้งเป็นล�าดับชั้นน้อยกว่าสมาคมทางธุรกิจ อย่างไรก็ดี เป็นที่ยอมรับกันว่า
สหภาพแรงงานในสองประเทศข้างต้นเป็นการจัดตั้งในรูปภาคีรัฐ-สังคม
แบบเสรี และเข้าหลัก 3 ประการที่จะถือได้ว่าเป็นการจัดตั้งในรูปภาคีรัฐ-สังคม
คือ (1) เป็นการรวมกลุ่มในรูปไตรภาคี (2) มีกลุ่มผลประโยชน์จ�านวนค่อนข้าง
_17-0315(178-202)9.indd 187 4/27/60 BE 11:57 AM