Page 305 - Publicationa15

การเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์กับการพัฒนาประชาธิปไตย 297

กำรเมืองสมำนฉันท์ไม่ได้มองอ�ำนำจเป็นเป้ำหมำยแต่มอง

ประโยชน์หรือควำมสุขสมบูรณ์ของสังคมร่วมกันเป็นเป้ำหมำย กำรเมือง
ระดับชำติ และท้องถิ่นเป็นกำรเมืองเชิงควำมขัดแย้งแย่งชิงอ�ำนำจตำม
“หลักทฤษฎีระบบ” หลำยสิ่งหลำยอย่ำงเกำะเกี่ยวเป็นปฏิสัมพันธ์ซึ่งกัน
และกัน เกิดอะไรขึ้นอย่ำงหนึ่ง จะเกิดเหตุกระทบกันไปเป็นลูกโซ่ สภำพกำรเมือง

ไทยในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ยำกต่อกำรแก้ไข แต่ไม่ได้หมำยควำมว่ำจะเป็นไปไม่ได้
ควำมขัดแย้งในระดับของกำรใช้อำวุธรบรำฆ่ำฟันยังไม่มี จึงไม่สำยเกินไป
ที่จะใช้กระบวนกำรสันติ-สมำนฉันท์ ในบำงประเทศต่อสู้กันด้วยอำวุธมำนำน
แต่ยังสำมำรถนั่งโต๊ะเจรจำร่วมกันได้ ระบบกำรเมืองของประเทศไทยจึงยัง

ไม่สำยเกินไปที่จะน�ำกำรเมืองสมำนฉันท์มำใช้ กำรจัดกำรเชิงสมำนฉันท์คือ
กำรหำบุคคลท�ำหน้ำที่เป็นคนกลำงมำหำข้อตกลงร่วมกันให้ได้ โดยคนกลำง
ต้องมีลักษณะเป็นบุคคลที่คู่กรณีให้กำรยอมรับ
3.6 ประเภทและรูปแบบของความขัดแย้ง

พัฒนำกำรของควำมขัดแย้ง โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่
3.6.1 ควำมขัดแย้งแฝง (Latent Conflicts): ระยะนี้เป็นระยะ
ของข้อพิพำทที่ยังไม่พัฒนำเต็มที่ยังไม่ขยำยตัวจนเกิดกำรแบ่งขั้วของผู้ขัดแย้ง
3.6.2 ควำมขัดแย้งก�ำลังเกิด (Emerging Conflicts): เป็นระยะ

ที่พัฒนำขึ้นมำจำกระยะแรกคือได้เกิดฝ่ำยต่ำงๆ ขึ้น โดยรับรู้ว่ำมีข้อพิพำทขึ้น
แต่ยังไม่มีกำรเจรจำไกล่เกลี่ยหรือกระบวนกำรแก้ปัญหำเกิดขึ้น
3.6.3 ควำมขัดแย้งที่ปรำกฏออกมำแล้ว (Manifest Conflicts):
ระยะนี้เป็นระยะที่ควำมขัดแย้งได้พัฒนำไปเป็นข้อพิพำทที่ชัดเจน มีกำร

ด�ำเนินกำรตำมบทบำทที่ตัวเองเกี่ยวข้อง รวมถึงอำจมีกำรเจรจำไกล่เกลี่ย หรือ
อำจถึงทำงตันหำทำงออกไม่ได้
ส่วนรูปแบบของควำมขัดแย้งนั้นจะสำมำรถแบ่งออกเป็น 5 ชนิด
ได้แก่

1) ควำมขัดแย้งด้ำนข้อมูล (Data Conflicts): เป็นควำมขัดแย้ง
ที่เกิดขึ้นจำกกำรมีข้อมูลมำกหรือน้อยเกินไปท�ำให้กำรประมวลผลมีควำม

_17-0315(285-305)14.indd 297 4/27/60 BE 11:58 AM