Page 306 - Publicationa15
P. 306

298   อภิชาต สุขัคคานนท์



              ผิดพลำด มีกำรวิเครำะห์ที่แตกต่ำงกันในปัญหำเรื่องเดียวกัน สุดท้ำยแล้วก็น�ำมำ

              ซึ่งควำมขัดแย้ง
                         2) ควำมขัดแย้งจำกผลประโยชน์ (Interest Conflicts): กำรมี
              ทรัพยำกรต่ำงๆ ที่จ�ำกัดบนโลกนี้ล้วนแต่ส่งผลให้ต่ำงฝ่ำยต่ำงต้องกำรที่จะ
              ครอบครองผลประโยชน์ต่ำงๆ ผลที่ตำมมำคือควำมขัดแย้งที่เกิดขึ้นจำก

              ผลประโยชน์
                         3) ควำมขัดแย้งด้ำนโครงสร้ำง (Structural Conflicts): ควำม
              ขัดแย้งประเภทนี้ เป็นควำมขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของอ�ำนำจ กำรใช้อ�ำนำจ
              กำรแย่งชิงอ�ำนำจ กำรกระจำยอ�ำนำจ และรวมไปถึงกฎระเบียบ ข้อบังคับต่ำงๆ

                         4) ควำมขัดแย้งด้ำนควำมสัมพันธ์ (Relationship Conflicts):
              เป็นควำมขัดแย้งที่เกิดจำกอำรมณ์ควำมรุนแรง และพฤติกรรมต่ำงๆ อันน�ำมำ
              ซึ่งควำมเข้ำใจผิด โดยปัญหำหลักส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจำกกำรสื่อสำรที่บกพร่อง
                         5)  ควำมขัดแย้งด้ำนค่ำนิยม (Value Conf licts): ควำมขัดแย้งนี้

              เป็นควำมขัดแย้งที่เกิดขึ้นจำกควำมเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณี ประวัติ
              ที่แต่ละคนได้รับกำรหล่อหลอมมำจำกกำรเลี้ยงดูในวัยเด็กจนเป็นผู้ใหญ่
                    3.7 การแก้ไขความขัดแย้ง
                         เมื่อควำมขัดแย้งได้พัฒนำมำถึงระยะแสดงออกแล้ว ควรจะมี

              กระบวนกำรแก้ปัญหำข้อพิพำทซึ่งสำมำรถด�ำเนินกำรได้ 4 รูปแบบ คือ
                         1) กำรเจรจำไกล่เกลี่ย (negotiation) โดยคู่กรณีท�ำกำรเจรจำ
              กันเอง
                         2)  กำรเจรจำไกล่เกลี่ยแบบมีคนกลำง (Mediation) เป็นกำร

              เจรจำไกล่เกลี่ยโดยมีบุคคลที่สำมหรือคนกลำงท�ำหน้ำที่อ�ำนวยควำมสะดวก
              แต่ไม่ท�ำหน้ำที่ตัดสิน
                         3)  อนุญำโตตุลำกำร (Arbitration) มีลักษณะคล้ำยกับกำร
              ด�ำเนินงำนของศำล โดยมีคณะอนุญำโตตุลำกำรท�ำหน้ำที่คล้ำยผู้พิพำกษำที่

              ต้องรับฟ้องข้อมูลของทั้งสองฝ่ำยแล้วท�ำกำรตัดสิน อย่ำงไรก็ตำม ค�ำตัดสินนี้
              คู่กรณีไม่จ�ำเป็นต้องปฏิบัติตำม คือไม่มีสภำพบังคับตำมกฎหมำย








        _17-0315(285-305)14.indd   298                                     4/27/60 BE   11:58 AM
   301   302   303   304   305   306   307   308   309   310   311