Page 33 - อนัมศึกษา 2
P. 33

๒๗



                     เพราะฉะนั้น   เรื่องของทานจึงตองวิจิตรพิสดารไปตามคุณลักษณะแหงรูป  ปรากฏในตำนานทาง

              ฝายธิเบต วา ครั้งหนึ่ง  พระอมิตาภพุทธเจา ทรงเขาฌานประทับนิ่ง  ครั้นแลว บังเกิดรัศมีสวางขาวออก

              จากพระจักษุเบื้องขวา เกิดเปนพระปทมปาณี  คือ พระอวโลกิเตศวร ขึ้น เพื่อมาทำหนาที่รื้อสัตวใหพน

              ทุกข   กลาวเฉพาะขางจีน พระอวโลกิเตศวรนี้   ญวนเรียกวา  กวางอ็อม จีนเรียกวา  กวนอิม  นิยมทำ

              เปนรูปผูหญิงมากกวาเปนผูชาย เหตุที่พระอวโลกิเตศวรจะกลายมาเปนพระโพธิสัตวผูหญิง  มีที่มาตาง ๆ

              กัน คือ  บางวาเพราะตามคติมหายานในธิเบตและประเทศใกลเคียงแถบนั้น ยอมมีเทวีเปนนางคูบารมี

              ประจำองคพระฌาณีพุทธเจาและฌานีโพธิสัตวเรียกกันวา ศักดิ์  สวนพระอวโลกิเตศวร มีเทวี ชื่อ ดารา

              โดยเสด็จเสมอประกอบทั้งที่ ทั้งสองพระองคมีฤทธิ์เดช  อาจบิดเบือนกายไดตาง ๆ นักปราชญจึงรวมให

              เปนองคเดียวกันเสีย และอาศัยเหตุที่คุณลักษณะแหงความเมตตากรุณา ทางจีนเห็นวา เปนอิตถีเพศ

              มากกวาบุรุษเพศอีกประการหนึ่ง พระอวโลกิเตศวรจึงนิยมกันวาเปนพระโพธิสัตวผูหญิงมากกวาผูชาย



              ตำนานที่กลาวถึงพระกวางอ็อมหรือพระกวนอิม

                     ตำนานที่กลาวถึงพระกวางอ็อมหรือพระกวนอิม  ขางจีนมีพิเศษอยูเรื่องหนึ่งเลาวา ครั้งดึกดำ

              บรรพ  กอนพุทธศักราช  ๒๐๔๔ ป  พระเจาเมี้ยวจวง  แหงประเทศ เฮงนิ้ม  อยูทางใตแหงประเทศ

              เซี่ยมหลอกก  มีธิดาอยู ๓ องค องคสุดทองชื่อ เมี้ยวเสียง ชอบอยูในที่สงบวิเวกรักษาศีลมั่นอยูใน

              พระพุทธศาสนา ไมสมัครมีสามีเหมือนพี่สาวทั้งสอง พระเจาเมี้ยวจวง  ทรงพิโรธใหลงโทษ  โดยเนรเทศให

              ไปอยูยัง วัดแปะเจี๊ยะเซียมยี่ (วัดนกกระจอกขาว) ถึงกระนั้น นางก็ไมกลับใจ จนที่สุดทรงตัดพระทัยให
              ประหารชีวิตเสีย  ขณะจะประหารชีวิตเกิดอัศจรรยเปนพายุใหญมืดฟามัวดิน  พอพายุหยุดทองฟาสวาง


              นางก็หายไป
                     ทั้งนี้  เพราะพระภูมิเจาที่ไดรับเทวบัญชาใหแปลงเปนเสือมาคาบนาง  ซึ่งกำลังสลบอยูไปสูแดน

              ภูเขา ขณะสลบวิญญาณของนางไปสูนรกและไดอาศัยบารมีที่ไดชวยสัตวนรกใหพนโทษ  เมื่อกลับมา

              มนุษยโลก  คือฟนขึ้น  พระพุทธเจา ตรัสใหนางไปจำศีลภาวนาอยูยังเกาะพูทอและประทานผลทอที่เกิด

              จากตนบนสวรรคหนึ่งผล  เมื่อนางไดกินแลวก็ไมหิวกระหายและไมแกดวย รอนถึงพระภูมิเจาที่อีก  แปลง

              เปนเสือพานางโดยรวดเร็วดั่งลมพัดไปสูเกาะนั้น  นางจำศีลภาวนาเปนเวลาได ๙ ป  ระหวางนั้น ไดศิษย

              สองคน  คนหนึ่งเปนนักบวชหนุม ชื่อ เสียงไฉ  คนที่สอง ชื่อ เลงนึ่ง  คือ   ลูกสาวพญานาค  (รูปพระ

              กวางอ็อมหรือพระกวนอิมยอมมีศิษยทั้งสองประจำอยูซายขวาเสมอ) ตอมาพระเจาเมี้ยวจวง  ประชวรไม

              มีใครรักษาได   รอนถึงเมี้ยวเสียง   ตองเชือดเนื้อมาใหเขาเครื่องยา  (บางฉบับวาควักลูกนัยนตา)  พระ

              เจาเมี้ยวจวง จึงหายโรค  ภายหลังมานับถือพระพุทธศาสนาแข็งแรงและติดตามนางไปในที่สุด   พระเจา

              เมี้ยวจวงและพระมเหสีก็ไดภูมิสุขาวดี  คือ ไปสูแดนพระอมิตาภพุทธเจา  สวนนาง เมี้ยวเสียง  ไดถึงภูมิ

              โพธิสัตวแลวยังไมยอมเขาสูพุทธภูมิ จนกวาจะไดชวยสัตวโลกใหพนจากทุกขทั้งหมด
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38