Page 67 - บทที่ ๑
P. 67
๕๔
๑๖. อรหันต์องค์กุจะปักยะขะ
อรหันต์องค์นี้บางที่เรียกว่า จูเต้ ปันโตเกีย ได้แก่ท่านจูฬปัน
ถก มีอรหันต์ ๑,๖๐๐ องค์ เป็นบริวาร สถิตอยู่ ณ กลางเขาเนมินธร
ท่านเป็นน้องชายของท่านมหาปันถก เมื่อแรกจะบวชมีปัญญาทึบ
ท่องจำอะไรไม่ได้ พี่ชายจึงขับไล่ไม่ยอมให้บวช แต่ด้วยพุทธกุศโล
บาย จึงได้สำเร็จอรหันต์ ได้รับเอตทัคคะว่า เชี่ยวชาญในมโนมยิทธิ
เนรมิตกายต่าง ๆ ได้รวดเร็วทันใจ เป็นเยี่ยมในบรรดาสาวกที่พ้น
สังสารวัฏด้วยใจ (เจโตวิวัฏกุสละ) (อรหันต์องค์กุจะปักขะยะ อรหันต์
องค์นี้มือขวายกขึ้นเสมอออกคล้ายถือของ มือซ้ายประคองนกไว้)
๑๗. อรหันต์องค์คีลี
อรหันต์องค์นี้ บางที่เรียกว่า เค่งอิ๋ว ได้แก่ ท่านนนทิมิตร
ท่านเป็นอรหันต์องค์ใหม่ที่เพิ่มเติมในอรหันต์ ๑๖ เมื่อ ๘๐๐ ปี หลัง
พุทธปรินิพพานที่เกาะลังกา
(อรหันต์องค์คีลี อรหันต์องค์นี้อยู่ในท่านั่งชูมือขวาเสมอศีรษะ ถือ
ลูกแก้ว มือซ้ายกำมังกร)
๑๘. อรหันต์องค์ปักถาโล
อรหันต์องค์นี้ บางที่เรียกว่า ปินโท่ล่อ ได้แก่ ปิณโฑล
ประวัติของท่านไม่มีปรากฏชัดเพราะเป็นอรหันต์ที่เพิ่มเติมมาในยุค
หลังคู่กับท่านนนทิมิตร บางทีอาจจะเป็นรูปของพระเจ้าเหลียงบูเต้
ผู้เป็นอัครศาสนูปถัมภก หรืออาจจะเป็นท่านกุมารชีพ ภิกษุชาว
อินเดียผู้ถูกจับเป็นเชลยศึกไปจากธิเบต เมื่อถึงเมืองจีนก็มุ่งแปล
คัมภีร์ต่าง ๆ และได้รับการยอมรับว่าแปลได้ถูกต้องชัดเจนที่สุด แต่
นักปราชญ์จีนบางคนเห็นว่า อรหันต์องค์นี้น่าจะเป็นพระมหากา
ศยป ซึ่งได้รับมอบหมายให้สืบต่อพระศาสนา แต่ไม่มีชื่ออยู่ด้วย จึงได้เติมเข้าไปเป็นองค์ที่ ๑๘
(อรหันต์องค์ปักถาโล อรหันต์องค์นี้ชูมือขวาถือห่วงชูชึ้น ขี่เสือ)