Page 64 - บทที่ ๑
P. 64
๕๑
๖. อรหันต์องค์ ปะโตโล
อรหันต์องค์นี้บางที่เรียกว่า โปโตโล ได้แก่ ท่านภัทระ บางที
เรียกชื่อว่า ตามพภัทร กล่าวกันว่าเป็นพระญาติของพระพุทธเจ้า มี
เอตทัคคะว่าเป็นผู้มีสกุลสูง ทางฝ่ายจีนยกย่องว่ามีเทศนาโวหารดี
สามารถอธิบายอรรถธรรมอันลึกซึ้งให้ผู้ฟังเข้าใจได้ง่าย และชัดเจน
(อรหันต์องค์ ปะโตโล อรหันต์องค์นี้อยู่ในท่านั่งประนมมือ)
๗. อรหันต์องค์คักกะขา
อรหันต์คักกะขา บางที่เรียก เกียลีเกีย ได้แก่ ท่านกาลิก มีพระ
อรหันต์ ๑,๐๐๐ องค์ เป็นบริวาร สถิตอยู่ ณ สังฆาฎทวีป เป็นพระ
อรหันต์ผู้มีสาวกมาก และเป็นที่นับถือของพระเจ้าพิมพิ-สาร
(อรหัตน์องค์คักกะขา อรหันต์องค์นี้อยู่ในท่านั่งห้อยเท้า เฉพาะมือ
ขวาถือฉาบ มือซ้ายกำวางบนตัก)
๘. อรหันต์องค์ วัดจารย์โต
อรหันต์วัดจารย์โต บางที่เรียกว่า ฮวดซือล่อฮุดโตโล้ ได้แก่
พระวัชรบุตร มีอรหันต์ ๑,๑๐๐ องค์ เป็นบริวาร สถิตอยู่ ณ บรรณทวีป
พระอรหันต์รูปนี้ถือไม้ขักขระ ซึ่งถือเป็นไม้โปรดสัตว์และเป็นของจำเป็น
สำหรับมหายาน สำหรับพระธุดงค์เพื่อสั่นให้เกิดเสียงดังสัตว์จะได้หนีไป
มิต้องถูกเหยียบย่ำทำลาย กรณีเข้าไปในบ้านให้สั่นให้เกิดเสียงแทนวจี
วิญญัติ คือ การกล่าววาจา (อรหันต์ องค์ วัดจารย์โต อรหันต์องค์นี้อยู่ใน
ท่านั่งไขว่ห้าง ถือไม้ขักขระ ซึ่งเป็นบริขารอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่จะอุปสมบทในฝ่ายมหายาน)
๙. อรหันต์องค์ใดปักขา
อรหันต์ใดปักขา บางที่เรียกว่า ซูปุดเกีย ได้แก่ท่านสุปาก มี
อรหันต์ ๑,๙๐๐ องค์ เป็นบริวาร สถิตอยู่ ณ กลางเขาคันธมาทน์ ตาม
ประวัติกล่าวว่ามารดาท่านตายตั้งแต่ท่านอยู่ในครรภ์ เมื่อนำไปเผาไฟก็
ไม่ไหม้ ผู้คนจึงพากันทิ้งหนีไป แล้วท่านก็คลอดออกมา คนยามมาพบ
เข้าจึงนำไปเลี้ยงคู่กับบุตรของตน เมื่ออายุ ๗ ขวบ ได้ฟังธรรมก็เกิด
เลื่อมใส จึงขออนุญาตบิดาเลี้ยงออกบวช ภายหลังได้บรรลุอรหันต์
อรหันต์ ปักขา (อรหันต์องค์นี้สวมประคำและมีขนคิ้วยาว)