Page 21 - 012สังคมศึกษา-สค21001
P. 21

13


                          ความเร็วของพายุ สามารถแบงออกเปน 5 ระดับ ไดแก

                          1) ระดับที่ 1 มีความเร็วลม 119 - 153 กิโลเมตรตอชั่วโมง ทําลายลางเล็กนอย ไมสงผลตอสิ่ง
               ปลูกสราง มีน้ําทวมขังตามชายฝง

                          2) ระดับที่ 2 มีความเร็วลม 154 - 177 กิโลเมตรตอชั่วโมง ทําลายลางเล็กนอย ทําใหหลังคา

               ประตู หนาตางบานเรือนเสียหายบาง ทําใหเกิดน้ําทวมขัง
                          3) ระดับที่  3  มีความเร็วลม  178  -  209  กิโลเมตรตอชั่วโมง  ทําลายลางปานกลางทําลาย

               โครงสรางที่อยูอาศัยขนาดเล็ก น้ําทวมขังถึงพื้นบานชั้นลาง
                          4) ระดับที่ 4 มีความเร็วลม 210 - 249 กิโลเมตรตอชั่วโมง ทําลายลางสูง หลังคาบานเรือน

               บางแหงถูกทําลาย น้ําทวมเขามาถึงพื้นบาน
                          5) ระดับที่ 5 มีความเร็วลมมากกวา 250 กิโลเมตรตอชั่วโมง จะทําลายลางสูงมาก หลังคา

               บานเรือน ตึกและอาคารตาง ๆ ถูกทําลาย พังทลาย น้ําทวมขังปริมาณมาก ถึงขั้นทําลายทรัพยสินในบาน

               อาจตองประกาศอพยพประชาชน
                          ลําดับชั้นการเกิดพายุฝนฟาคะนอง

                          1) ระยะเจริญเติบโต  โดยเริ่มจากการที่อากาศรอนลอยตัวขึ้นสูบรรยากาศ พรอมกับการมีแรง

               มากระทําหรือผลักดันใหมวลอากาศยกตัวขึ้นไปสูความสูงระดับหนึ่ง โดยมวลอากาศจะเย็นลงเมื่อลอยสูงขึ้น
               และเริ่มที่จะเคลื่อนตัวเปนละอองน้ําเล็ก ๆ เปนการกอตัวของเมฆคิวมูลัส ในขณะที่ความรอนแฝงจากการ

               กลั่นตัวของไอน้ําจะชวยใหอัตราการลอยตัวของกระแสอากาศภายในกอนเมฆเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งเปนสาเหตุให

               ขนาดของเมฆคิวมูลัสมีขนาดใหญขึ้นและยอดเมฆสูงเพิ่มขึ้นเปนลําดับ  จนเคลื่อนที่ขึ้นถึงระดับบนสุดแลว
               (จุดอิ่มตัว) จนพัฒนามาเปนเมฆคิวมูโลนิมบัส กระแสอากาศบางสวนก็จะเริ่มเคลื่อนที่ลงและจะเพิ่มมากขึ้น

               จนกลายเปนกระแสอากาศที่เคลื่อนที่ลงอยางเดียว
                          2) ระยะเจริญเติบโตเต็มที่ เปนชวงที่กระแสอากาศมีทั้งไหลขึ้นและไหลลงปริมาณความรอนแฝง

               ที่เกิดขึ้นจากการกลั่นตัวลดนอยลง  ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่หยาดน้ําฟาที่ตกลงมามีอุณหภูมิต่ํา ชวยทําให

               อุณหภูมิของกลุมอากาศเย็นกวาอากาศแวดลอม ดังนั้น อัตราการเคลื่อนที่ลงของกระแสอากาศจะมีคาเพิ่มขึ้น
               เปนลําดับ กระแสอากาศที่เคลื่อนที่ลงมา จะแผขยายตัวออกดานขางกอใหเกิดลมกระโชกรุนแรง อุณหภูมิ

               จะลดลงทันทีทันใด และความกดอากาศจะเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็วและยาวนาน แผออกไปไกลถึง 60 กิโลเมตร
               ได โดยเฉพาะสวนที่อยูดานหนาของทิศทาง การเคลื่อนที่ของพายุฝนฟาคะนอง พรอมกันนั้นการที่กระแส

               อากาศเคลื่อนที่ขึ้นและเคลื่อนที่ลงจะกอใหเกิดลมเชียรรุนแรงและเกิดอากาศปนปวนโดยรอบ

                          3) ระยะสลายตัว  เปนระยะที่พายุฝนฟาคะนองมีกระแสอากาศเคลื่อนที่ลงเพียงอยางเดียว
               หยาดน้ําฝนตกลงมาอยางรวดเร็วและหมดไปพรอม ๆ กับกระแสอากาศที่ไหลลงก็จะเบาบางลง

                          การหลบเลี่ยงอันตรายจากพายุฝนฟาคะนอง  เนื่องจากพายุฝนฟาคะนองสามารถ  ทําใหเกิด

               ความเสียหายตอทรัพยสินและอันตรายตอชีวิตของมนุษยได จึงควรหลบเลี่ยงจากสาเหตุดังกลาว คือ
                          1) ในขณะปรากฏพายุฝนฟาคะนอง หากอยูใกลอาคารหรือบานเรือนที่แข็งแรงและปลอดภัย

               จากน้ําทวม ควรอยูแตภายในอาคารจนกวาพายุฝนฟาคะนองจะยุติลง ซึ่งใชเวลาไมนานนัก การอยูในรถยนต
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26