Page 5 - วิธีการทางประวัติศาสตร์
P. 5

ประวัติศาสตร์   ม. ๓หน่วยการเรียนที่ ๑   วิธีการทางประวัติศาสตร์                  ผู้สอน ครูจิราพร  พิมพ์วิชัย   4


                                       - ตีความแนวราบ เป็นการตีความตามล าดับเวลา (ค้นคว้าแล้วตีความโดยเชื่อมโยงอย่างเป็นเหตุ

              เป็นผลเป็นพัฒนาการไปเรื่อยๆ)
                                       - ตีความแนวดิ่ง เป็นการล้วงลึกลงไปในหลักฐานอย่างถึงลูกถึงคน จริงๆเป็นการ ช าแหละหลักฐาน

              นั้นว่ามี “นัยยะ”  อะไรแอบแฝงหรือไม่
                                       - ต้องใช้หลักฐานหลายๆประเภทมาประกอบการตีความของเรา

                         ขั้นที่ ๕ เรียบเรียงแล้วน าเสนอ การเรียบเรียงต้องใช้ ๒ วิธี คือ

                                       - วิเคราะห์ = แยกจัดหมวดหมู่ตามประเด็นที่วางไว้ - สังเคราะห์ = ประมวลภาพทั้งหมดที่เรา
              ศึกษามาและก าลังจะน าเสนอสิ่งใหม่ๆให้คนอื่นได้รู้

              ๔. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ แบ่งเป็น
                         (๑) หลักฐานปฐมภูมิ (หลักฐานชั้นต้น) เป็นหลักฐานที่เกิดร่วมสมัยกับเหตุการณ์นั้น หรือผู้สร้าง เป็นผู้อยู่ใน

              เหตุการณ์โดยตรง

                         (๒) หลักฐานทุติยภูมิ (หลักฐานชั้นรอง) เป็นการน าหลักฐานปฐมภูมิมาวิเคราะห์ ตีความ หรือ เขียนขึ้นหลัง
              เหตุการณ์นั้น

                              *** หลักฐานปฐมภูมิมีความส าคัญและน่าเชื่อถือมากกว่าหลักฐานทุติยภูมิ แต่บางทีเรามองว่าเป็น

              หลักฐานปฐมภูมิที่ดูดีแต่อาจมีความจริงแค่ ๑๐% ก็ได้ ***
              ๕. หลักฐานที่ใช้ในการศึกษาประวัติศาสตร์ไทย อาจจะเป็น

                         (๑) หลักฐานที่เกิดโดยคนของเราเอง โดย
                                    - ถ้าเป็นคนในระดับพระมหากษัตริย์ จะเรียกว่า พงศาวดาร หรือไม่ก็เป็น จดหมายเหตุ

                                   **พระราชพงศาวดารที่นักประวัติศาสตร์ยอมรับว่ามีข้อมูลถูกต้องแม่นย าที่สุด ได้แก่

                                      พระราชพงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐ (เขียนในสมัย สมเด็จพระนารายณ์)
                                    - ถ้าเป็นคนระดับสามัญชนที่มักจะเป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมา จะเรียกว่า ต านาน

                         (๒) หลักฐานที่เกิดโดยชาวต่างชาติที่เข้ามาบ้านเรา โดย
                                    - พวกรายงานของพ่อค้า นักการทูต นักผจญภัย จะเรียกว่า บันทึกของชาวต่างชาติ

                                    - บางทีมีฝรั่งเข้ามาบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ จนกลายเป็น พงศาวดารเลยก็มี เช่น พงศาวดารวันวลิต

                                    - ถ้าจดเรื่องราวเป็นวันๆ ที่เกิดเหตุการณ์นั้นๆ ออกแนว Diary จะเรียกว่า จดหมายเหตุ เช่นจดหมาย
              เหตุของลาลูแบร์

                         * หลักฐานของชาวต่างชาติให้ประโยชน์แก่การศึกษาประวัติศาสตร์ไทยมากกว่าหลักฐานของไทย ในบางครั้ง

              เพราะ


                                    ๑) หลักฐานต่างชาติจะบันทึกทุกเรื่อง = ทั้งระดับ กษัตริย์ จนถึงสามัญชน ทั้งเรื่องการเมือง

              เศรษฐกิจ สังคม วิถีชีวิต สิ่งแวดล้อม  แต่หลักฐานไทยมักจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ กษัตริย์ และการเมือง
                                    ๒) หลักฐานต่างชาติเวลาบันทึกเขาจะบันทึกที่เขาเห็น จึงไม่จะเป็นต้องเข้าข้างใคร ขณะที่หลักฐาน

              ไทยมักต้องเข้าข้างกษัตริย์
                         * แต่ข้อที่ต้องระวัง ก็คือ เราจะยึดถือ ๑๐๐% ไม่ได้ เพราะเขาไม่เข้าใจวัฒนธรรมของเราจริงๆ
   1   2   3   4   5   6   7   8