Page 129 - วทยาศาสตรเพอพฒนาอาชพธรกจและบรการ_Neat
P. 129

118


                 2. กฎของเลนส์

                   “ฟลักซ์แม่เหล็กที่มีการเปลี่ยนแปลงในวงจร ทําให้เกิดกระแสเหนี่ยวนําไหลผ่านในทิศที่


               ทําให้เกิดผลไปด้านการเปลี่ยนแปลงของฟลักซ์แม่เหล็กนั้น”

                  3. ทฤษฎีของแมกซ์เวลล์

                    “สนามไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงตามเวลาทําให้เกิดสนามแม่เหล็กและในขณะเดียวกัน


               สนามแม่เหล็กที่เปลี่ยนแปลงตามเวลาก็ทําให้เกิดสนามไฟฟ้าด้วย  โดยทิศสนามแม่เหล็ก

               และสนามไฟฟ้า จะตั้งฉากกัน และเคลื่อนที่ผ่านอากาศด้วยความเร็วเท่าแสง  คือเท่ากับ

               300,000,000 เมตรต่อวินาที เรียกคลื่นนี้ว่า คลอนที่ผ่านอากาศด้วยความเป็นหาด้วย โดย


               ทิศสนามแม่เหลนขณะเดียวกัน

                   สรุปได้ว่ำ

                    ระหว่างสนามไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก การเปลี่ยนแปลงของสนามหนึ่งจะสามารถสร้าง


               อีก สนามหนึ่งได้ในระนาบที่ตั้งฉากกับการเปลี่ยนแปลงนั้น นั่นคือ การเกิดการเปลี่ยนแปลง

               ของสนามไฟฟ้า จะทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็ก และการเกิดการ

               เปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กจะทําให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงของสนามไฟฟ้าได้ ดังนั้นการ


               เริ่มต้นที่การเปลี่ยนแปลงของสนามหนึ่งจะเหนียวนําให้ เกิดอีกสนามหนึ่งต่อเนื่องกันไปไม่

               สิ้นสุด การเหนี่ยวนําต่อเนื่องกันไปนี้ คือการแผ่ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า นั่นเอง การ

               เหนี่ยวนํานี้เกิดขึ้นได้ทั้งในสุญญากาศและในตัวกลางที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านั้นเคลื่อนที่ผ่าน




               2. สเปกตรัมของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ

                    คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีลักษณะเหมือนคลื่นทั่วไป มีความยาวคลื่นและความถี่ต่อเนื่องกัน


               อยู่ใน ช่วงประมาณ 10 ถึง 10 เฮิรตซ์ เรียกช่วงความถี่เหล่านี้ว่า “สเปกตรัมคลื่น

               แม่เหล็กไฟฟ้า” และ มีชื่อเรียกช่วงต่าง ๆ ของความถี่ต่างกันตามแหล่งกําเนิดและวิธี

               ตรวจวัดคลื่นนั้น คลื่นในความถึงบางช่วง มีชื่อเรียกไม่เหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่มีความถี่เดียวกัน
   124   125   126   127   128   129   130   131   132   133   134