Page 155 - วทยาศาสตรเพอพฒนาอาชพธรกจและบรการ_Neat
P. 155

143
















                             รูปที่ 9.6 แสดงอํานาจทะลุผ่านของรังสีแอลฟา เบตาและแกมมา

                   5.3 กำรวิเครำะห์ชนิดของรังสี


                        เมื่อนําสารกัมมันตรังสีใส่ลงในแท่งตะกั่วที่เจาะรูให้รังสีออกมาช่องทางเดียวพุ่งเป็น

               เส้นตรง ย่านสนามไฟฟ้า พบว่ารังสีบีตาเบนเข้าหาตัวบวก รังสีแอลฟาหรืออนุภาคแอลฟา

               เบนเข้าหาขั้วลบ ส่วนรังสีแกมมา เป็นกลางทางไฟฟ้าไม่เบี่ยงเบนเพราะไม่ถูกดูดหรือผลัก


               ด้วยอํานาจแม่เหล็กหรืออํานาจ นําไฟฟ้า

                        สรุปได้ว่า รังสีแอลฟาเป็นอนุภาคขนาดเล็ก มีประจุบวก รังสีบีตาเป็นอนุภาคขนาด

               เล็ก มีประจุลบ และมีมวลน้อยกว่าแอลฟา รังสีแกมมาเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่มีประจุ




               6. กำรน ำพลังงำนนิวเคลียร์ไปใช้ประโยชน์

                   พลังงานนิวเคลียร์ที่ปล่อยจากนิวเคลียสมีหลายรูปแบบ  เช่น พลังงานความร้อน  รังสี


               แกมมา อนุภาคบุตา อนุภาคแอลฟา  และอนุภาคนิวตรอน  ซึ่งอาจถูกปล่อยออกมาเพียง

               ชนิดเดียว หรือปล่อยออก  มาครั้งละหลายอย่างพร้อมกัน  การนําพลังงานนิวเคลียร์ไปใช้

               ประโยชน์ก็คือ  การนําเอารังสีและอนุภาค  ต่าง ๆ ไปใช้นั่นเอง  โดยปัจจุบันมีการนําเอา


               พลังงานนิวเคลียร์ไปใช้ประโยชน์ด้านต่าง

                   ปัจจุบันมีการนําเทคนิคด้านนิวเคลียร์มาใช้ในทางการแพทย์หลายด้าน  เช่น ด้านการ

               ตรวจ และวินิจฉัยสารที่มีประมาณน้อยในร่างกาย โดยการใช้เทคนิค Radio Immuno


               Assay (RIA) หรือ เทคนิคฉีดสารกัมมันตรังสีเข้าร่างกายเพื่อหาตํ่าแหน่งของอวัยวะที่เสีย
   150   151   152   153   154   155   156   157   158   159   160