Page 103 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 103
ประวัติศาสตร์จานเดียว
พม่าตอนใต้จึงสงบเรียบร้อย การค้าขายก็กลับมาเป็นปกติ สภาพของเมือง
โดยรวมจึงเจริญขึ้นทุกทีๆ
ฝั่งราชสำานักนครอมรปุระเมื่อทราบข่าวก็เกิดความรู้สึกว่าหาก
ปล่อยให้หัวเมืองตอนใต้เจริญแซงหน้าเมืองหลวงต่อไปจะเป็นการเสื่อมพระ
เกียรติยศ จึงกราบบังคมทูลแนะนำาให้ย้ายเมืองหลวง ซึ่งพระเจ้ามินดงก็เห็น
ชอบด้วย ดังนั้น ราวปี พ.ศ. ๒๔๐๐ พระองค์จึงมีพระบรมราชโองการโปรด
เกล้าฯ ให้ตั้งเมืองมัณฑะเลย์เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของพม่า
การย้ายราชธานีแห่งใหม่เปรียบเสมือนว่าพระเจ้ามินดงทรง
ปรารถนาจะฟื้นฟูพระราชอาณาจักรใหม่อีกครั้งให้ยิ่งใหญ่ทัดเทียมในสมัย
ครั้งโบราณกาล แต่การสร้างกรุงมัณฑะเลย์ก็ต้องใช้เงินจำานวนมหาศาล
แม้ว่าในท้องพระคลังยังพอจะอุดมไปด้วยทรัพย์มากมาย ก็ใช่ว่าจะมีเพิ่มพูน
กลับมาสักกี่มากน้อย แต่เมื่อเป็นพระราชประสงค์ของเจ้าชีวิตจึงไม่มีใครกล้า
ปฏิเสธได้ พระองค์ยังคงตั้งพระราชหฤทัยเฉกเช่นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์
ก่อนๆ คือหวังที่จะรวบรวมพม่าเป็นปึกแผ่นและเป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธ
ศาสนาเหมือนเช่นสมัยพระเจ้าอนุรุทธ แต่กลับมิได้มองดูสถานการณ์ว่าบัดนี้
โลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
ในสมัยนั้นตรงกับแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ ๔ ของกรุงสยาม พระเจ้ามินดงทรงหวังจะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับ
ไทย แต่เกรงไทยจะไม่ยอมรับ จึงพลิกแพลงด้วยการสานสัมพันธ์ทางศาสนา
แทนโดยส่งสมณฑูตมาเจริญสัมพันธ์กับสมเด็จพระสังฆราชในไทย พระบาท
สมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงยินดีกับมิตรภาพครั้งนี้ และได้ส่งสมณฑูตไปเจริญ
สัมพันธ์กับสมเด็จพระสังฆราชที่กรุงมัณฑะเลย์ด้วยเช่นกัน ความสัมพันธ์
ระหว่างพม่าและไทยจึงเริ่มดีขึ้นตามลำาดับ
แต่ความสัมพันธ์กับอังกฤษกลับตรงกันข้าม อังกฤษที่ปกครองพม่า
ทางตอนใต้พยายามหมิ่นพระเกียรติของพระองค์ทุกวิถีทาง การได้กราบ
๙๕