Page 37 - กฏหมายในชีวิตประจำวัน
P. 37
37
2. บุคคลธรรมดา
1. บุคคลธรรมดาคือมนุษย์ ซึ่งสามารถมีสิทธิและใช้สิทธิได้
2. สภาพบุคคลเมื่อเริ่มคลอด แล้วอยู่รอดเป็นทารก และสิ้นสุดลงเมื่อตายตามธรรมดา หรือตายโดยผล
ของกฎหมายคือสาบสูญ
3. สาบสูญ เป็นการสิ้นสภาพบุคคล โดยข้อสันนิษฐานของกฎหมาย หากบุคคลไปเสียจากภูมิลําเนาหรือ
ถิ่นที่อยู่โดยไม่มีใครทราบแน่นอนว่ายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว เมื่อครบกําหนดระยะเวลา 5 ปี หรือ 2 ปี
ตามกรณีที่กฎหมายกําหนดและมีผู้ร้องขอ เมื่อศาลมีคําสั่งแสดงความสาบสูญแล้วให้ถือว่าบุคคลนั้นตาย
เมื่อครบกําหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว
4. กฎหมายบัญญัติให้บุคคลต้องมีชื่อตัว และชื่อสกุล เพื่อเป็นสิ่งที่เรียกขานบุคคลและกําหนดให้แน่ชัด
ลงไปอีกว่าบุคคลนั้นเป็นใคร
5. สถานะของบุคคลเป็นสิ่งประกอบสภาพบุคคลที่แสดงฐานะหรือตําแหน่งของบุคคล ซึ่งดํารงอยู่ใน
ประเทศชาติและครอบครัวทําให้ทราบสิทธิและหน้าที่ของบุคคลที่พึงมีต่อประเทศชาติและครอบครัว
6. ภูมิลําเนาเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าบุคคลมีที่อยู่ประจําที่ไหน ทําให้การกําหนดตัวบุคคลสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ภูมิลําเนาที่
บุคคลอาจเลือกถือได้ตามใจสมัครและอาจมีหลายแห่ง
2.1 สภาพบุคคล
1. หลักเกณฑ์การเริ่มสภาพบุคคลมี 2 ประการประกอบกันคือ การคลอด และการมีชีวิตรอดเป็นทารก
ดังนั้น ทารกในครรภ์มารดาจึงยังไม่มีสภาพบุคคล
2. การคลอดหมายความถึง คลอดเสร็จเรียบร้อยบริบูรณ์ โดยทารกคลอดหมดตัวพ้นช่องคลอดไม่มีส่วน
หนึ่งส่วนใดของร่างการเหลือติดอยู่
3. การมีชีวิตรอดอยู่เป็นทารก หมายถึงการที่ทารกมีชีวิตอยู่โดยลําพังตนเองแยกต่างหากจากมารดา โดย
ถือการหายใจเป็นสาระสําคัญในการวินิจฉัยการเริ่มมีชีวิต
4. ทารกในครรภ์มารดาหมายถึง ทารกที่อยู่ในครรภ์นับแต่วันที่ปฏิสนธิเป็นทารกจนถึงวันคลอด การหาวัน
ปฏิสนธินั้นให้คํานวณนับแต่วันคลอดย้อนหลังขึ้นไป 30 วัน
5. ทารกในครรภ์มารดาสามารถมีสิทธิต่างๆ ได้ต่อเมื่อมีชีวิตอยู่อยู่ภายหลังคลอด คือ มีสภาพบุคคลแล้ว
และมีสิทธิย้อนหลังขึ้นไปถึงระยะเวลาที่กฎหมายสันนิษฐานว่าเริ่มปฏิสนธิ
6. การนับอายุของบุคคลให้เริ่มนับแต่วันเกิด ในกรณีที่บุคคลรู้เฉพาะเดือนเกิดแต่ไม่รู้วันเกิดให้นับวันที่
หนึ่งแห่งเดือนนั้นเป็นวันเกิด หากไม่รู้เดือนและวันเกิด ให้นับวันต้นปีที่บุคคลนั้นเกิดเป็นวันเกิด
7. การตายธรรมดาเป็นเหตุแห่งการสิ้นสภาพบุคคลโดยถือตามคําวินิจฉัยของแพทย์ว่าระบบสําคัญของ
ร่างกายเพื่อการดํารงชีวิตหยุดทํางานหมด